Anthony Pompliano หรือ “Pomp” นักลงทุนและผู้ประกอบการสาย Bitcoin ระบุว่า โอกาสที่บริษัทมหาชนรายอื่นจะไล่ทันการถือครอง Bitcoin ของ Strategy (บริษัทภายใต้การนำของ Michael Saylor) นั้น “เป็นไปได้ แต่แทบไม่น่าเกิดขึ้นจริง” เนื่องจาก Strategy

สะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนสร้างช่องว่างที่ตามได้ยาก

Pomp กล่าวในรายการ The Pomp Podcast ว่า Strategy เริ่มเข้าซื้อ Bitcoin ตั้งแต่ช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นจังหวะที่ราคายังอยู่เพียงราว 9,000–10,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยในภาพรวมได้เปรียบอย่างมาก เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่คิดจะเข้ามาไล่ตามในปัจจุบัน

Strategy ถือ Bitcoin เท่าไหร่แล้ว?

ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2025 ระบุว่า Strategy ถือครอง Bitcoin รวม 671,268 BTC และเพิ่งประกาศเข้าซื้อเพิ่มอีก 10,645 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 980.3 ล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ยราว 92,098 ดอลลาร์ต่อเหรียญ

เมื่อเทียบกับซัพพลายสูงสุดของ Bitcoin ที่จำกัดไว้ 21 ล้านเหรียญ ปริมาณการถือครองของ Strategy คิดเป็นประมาณ 3.2% ของซัพพลายทั้งหมด ซึ่ง Pomp มองว่าเป็นตัวเลขที่ “ใหญ่มาก” แม้ยังไม่ถึงระดับ 10% แต่ก็เพียงพอให้ตลาดจับตาบทบาทของ Strategy ในฐานะผู้เล่นรายใหญ่ที่สะสมอย่างต่อเนื่อง

ทำไม Pomp ถึงมองว่า “ไล่ทันยาก”

Pomp อธิบายว่า หากบริษัทใดต้องการไล่ทัน Strategy ในวันนี้ จะต้องใช้เงินลงทุนในระดับมหาศาล ผ่านการระดมทุนขนาดใหญ่ หรือเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดจำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่บริษัททั่วไปจะทำได้ง่าย

นอกจากนี้ การเริ่มสะสมตั้งแต่ช่วงต้นของวัฏจักร Bitcoin ทำให้ Strategy มีความได้เปรียบเชิงโครงสร้าง ทั้งด้านต้นทุนเฉลี่ยและระยะเวลาการถือครอง

ประเด็นกังวล: ถือเยอะแล้วจะ “คุมราคา” ได้หรือไม่?

การที่ Strategy ถือ Bitcoin จำนวนมาก ทำให้บางส่วนของตลาดกังวลถึงความเสี่ยงด้าน “อิทธิพลต่อราคา” อย่างไรก็ตาม Pomp มองว่า แม้ตัวเลขจะดูใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับซัพพลายทั้งหมดของ Bitcoin ก็ยังไม่อยู่ในระดับที่สามารถ “ผูกขาด” หรือควบคุมตลาดได้

ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้บริหาร Strategy ก็พยายามสื่อสารจุดยืนว่า บริษัทเน้นการถือครองระยะยาว ไม่ได้มีเป้าหมายเก็งกำไรระยะสั้น

CEO Strategy ย้ำ “ยังไม่ขาย” อย่างน้อยถึงปี 2065

รายงานจากหลายสำนักอ้างอิงบทสัมภาษณ์ของ Phong Le ซีอีโอของ Strategy ระบุว่า บริษัทไม่น่าจะขาย Bitcoin อย่างน้อยจนถึงปี 2065 เว้นแต่จะเกิดเงื่อนไขสุดวิสัยบางประการ ซึ่งท่าทีดังกล่าวช่วยลดความกังวลของตลาดในระยะสั้นเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการ “ขายทิ้งก้อนใหญ่”

ซื้อทีละเป็นพัน BTC แต่ทำไมราคาไม่สะเทือนทันที?

ในเชิงกลไกตลาด คำสั่งซื้อขนาดใหญ่ของสถาบันมักถูกดำเนินการผ่านช่องทางสภาพคล่องเฉพาะทาง หรือการซื้อขายนอกกระดาน (OTC) เพื่อลดผลกระทบต่อราคาบนกระดานซื้อขายหลัก

งานวิจัยและบทวิเคราะห์หลายชิ้นยังชี้ว่า การเข้าซื้อ Bitcoin ของ Strategy ส่งผลต่อราคาตลาดจริงน้อยกว่าที่นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากคาดไว้ ซึ่งสะท้อนว่ากลไกสภาพคล่องของตลาด Bitcoin ในปัจจุบันมีความลึกมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ