Solana เดินหน้าทดสอบ “ธุรกรรมต้านควอนตัม” บน Testnet รับมือภัย Quantum Computing

Solana Foundation ประกาศความร่วมมือกับ Project Eleven บริษัทด้านความปลอดภัยแบบ post-quantum เพื่อเตรียมความพร้อมให้เครือข่าย Solana รับมือความเสี่ยงจาก Quantum Computing ที่อาจเข้ามาทำลายกลไกการเข้ารหัสและลายเซ็นดิจิทัลของบล็อกเชนในอนาคต

 

ความร่วมมือครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการ ประเมินความเสี่ยงจากควอนตัม (Quantum Risk Assessment) และการพัฒนา เครือข่ายทดสอบ (Testnet) ที่ใช้ post-quantum digital signatures ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงในระดับธุรกรรม

ธุรกรรมต้านควอนตัม “ทำได้จริงและขยายสเกลได้”

จุดที่ทำให้ข่าวนี้ถูกจับตามอง คือคำอ้างจากทีมผู้พัฒนาว่า การทดสอบบน testnet แสดงให้เห็นว่า
ธุรกรรมแบบ end-to-end ที่ทนทานต่อควอนตัม (quantum-resistant transactions) ไม่เพียงทำได้จริง แต่ยังสามารถขยายสเกลได้

ประเด็นนี้สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเทคโนโลยี post-quantum โดยธรรมชาติมักใช้ทรัพยากรมากกว่าระบบลายเซ็นแบบเดิม ทั้งในด้านพลังประมวลผลและขนาดข้อมูล ส่งผลให้หลายเครือข่ายบล็อกเชนยังลังเลต่อการนำมาใช้งานจริง

Project Eleven ทดสอบอะไรให้ Solana?

จากข้อมูลที่เปิดเผย การทำงานร่วมกันครั้งนี้ครอบคลุมหลายระดับ ตั้งแต่

  • โครงสร้างพื้นฐานหลัก (Core Infrastructure)

  • กระเป๋าเงินผู้ใช้งาน (User Wallets)

  • ความปลอดภัยของ Validator
    ไปจนถึงการตั้งสมมติฐานด้าน คริปโตกราฟีระยะยาว ของเครือข่าย

อย่างไรก็ตาม Solana Foundation ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า testnet ดังกล่าวเลือกใช้ มาตรฐาน post-quantum ใด ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังต้องรอการเปิดเผยเพิ่มเติมในระยะถัดไป

มาตรฐาน Post-Quantum ที่โลกไอทียึดถือ

ในฝั่งมาตรฐานสากล NIST (สหรัฐฯ) ได้ประกาศมาตรฐาน post-quantum ชุดแรกในปี 2024 ได้แก่

  • FIPS 203

  • FIPS 204

  • FIPS 205

ซึ่งถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของการย้ายระบบเข้ารหัสสู่ยุค post-quantum

เพื่อให้เห็นภาพต้นทุนของเทคโนโลยีใหม่ การทดสอบของ Cloudflare ชี้ว่า
ลายเซ็นแบบ ML-DSA (กลุ่มเดียวกับ FIPS 204) ใช้ทรัพยากรตอน “เซ็น” สูงกว่า Ed25519 หลายเท่า
แต่ในฝั่ง “การตรวจสอบลายเซ็น” กลับทำได้เร็วกว่าในบางกรณี สะท้อนว่า post-quantum ไม่ได้ช้าทุกมิติ แต่มี trade-off ที่ชัดเจน

ทำไม “ควอนตัม” ถึงกลับมาเป็นประเด็นในคริปโต?

ไทม์ไลน์ของภัยควอนตัมยังเป็นที่ถกเถียงในวงการ บางมุมมองมองว่าอาจมาเร็วกว่าที่คิด
เช่น Vitalik Buterin ที่เคยประเมินว่ามีความเป็นไปได้ระดับหนึ่งที่ Quantum Computing จะเริ่มกระทบคริปโตกราฟี ก่อนปี 2030

ขณะที่อีกฝั่งอย่าง Adam Back มองว่า Bitcoin อาจยังไม่เผชิญความเสี่ยงควอนตัมที่มีนัยสำคัญไปอีก 20–40 ปี

อย่างไรก็ตาม แม้ปัญหาด้านเทคนิคจะค่อย ๆ มีแนวทางแก้ไข
แต่ “ปัญหาการตัดสินใจของชุมชน” ก็ยังเป็นโจทย์ใหญ่ไม่แพ้กัน
โดย James Check เคยชี้ว่า ความท้าทายสำคัญของ Bitcoin และบล็อกเชนขนาดใหญ่ อาจไม่ใช่เทคโนโลยี แต่คือเรื่อง ฉันทามติและการเมืองของเครือข่าย ในการผลักดันมาตรการรับมือภัยควอนตัม

การที่ Solana เริ่มทดลองจริงบน testnet จึงถูกมองว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการ ในการเตรียมรับ “อนาคตหลังควอนตัม” ก่อนที่ภัยคุกคามจะมาถึงจริง

คลิก

Cr.cointelegraph

-----------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"