เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และอนาคตประธานเฟดซ เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว

โดยเฉพาะประเทศอุตสาหกรรม ทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นทั้งในสหรัฐและยุโรป เป็นเหตุผลที่นโยบายการเงินควรลดการผ่อนคลาย ล่าสุด ประธานเฟดซึ่งจะครบวาระเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ให้ความเห็นว่า

จะลดขนาดการอัดฉีดสภาพคล่องก่อนสิ้นปีนี้เพื่อปูทางไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเงื่อนเวลาดังกล่าวอาจช้าเกินไปในแง่การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ นี่คือประเด็นที่เขียนวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดชี้ชัดเจนว่า เศรษฐกิจสหรัฐและกลุ่มประเทศยุโรปกำลังฟื้นตัว อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาสสองเทียบกับระยะเดียวกับปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 12.2 และร้อยละ 13.6 สำหรับประเทศในกลุ่มยูโรโซน ตัวเลขการขยายตัวก็เข้มแข็งถ้าวัดตัวเลขไตรมาสต่อไตรมาส คือ ร้อยละ 6.5 และ ร้อยละ 8.2 ตามลำดับ อัตราการมีงานทำก็ปรับดีขึ้น อัตราการว่างงานในสหรัฐลดลงเหลือร้อยละ 5.4 ในเดือนกรกฎาคมและเหลือร้อยละ 7.7 สำหรับประเทศกลุ่มยูโรโซนในเดือนมิถุนายน เป็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัว
การฟื้นตัวดังกล่าวทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจมีมากขึ้น ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอยู่ที่ร้อยละ 5.4 เดือนกรกฎาคม และตลาดคาดว่าแรงกดดันจะมีต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศยูโรโซนที่อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเป็นร้อยละ 3 ในเดือนสิงหาคม เพิ่มจากร้อยละ 2.2 เดือนกรกฎาคม ชี้ถึงแรงกดดันด้านราคาที่มีต่อเนื่องพร้อมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็นผลทั้งจากปัจจัยด้านอุปสงค์ คือ การขยายตัวของการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และปัจจัยด้านอุปทานจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งราคาน้ำมันและราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น ค่าจ้างแรงงานก็เพิ่มขึ้นจากการขาดแคลนแรงงานในบางสาขา รวมถึงค่าระวางเรือที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ที่สำคัญคือ การปิดโรงงานจากปัญหาโควิดทำให้สินค้าขั้นกลาง เช่น ชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขาดแคลน สร้างปัญหาคอขวดในห่วงโซ่การผลิต การผลิตหลายอย่างขยายตัวไม่ทัน ราคาจึงปรับสูงขึ้น
ข้อจำกัดด้านอุปทานนี้ทำให้มีการวิเคราะห์ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นขณะนี้อาจเป็นภาวะชั่วคราว ที่อัตราเงินเฟ้อจะเริ่มลดลงเมื่อปัญหาคอขวดคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ที่น่าห่วงคือการปรับขึ้นของราคาได้เริ่มกระทบการคาดหวังในตลาดการเงินเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยหลายหน่วยงานเริ่มปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อปีนี้ขึ้น ตัวอย่างเช่น แนวโน้มราคาบ้านในอนาคตและระดับเงินเฟ้อที่คาดหวังโดยผู้บริโภค ล่าสุด The Conference Board ในสหรัฐ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรของภาคธุรกิจ ประเมินว่า ผู้บริโภคสหรัฐมองอัตราเงินเฟ้อ 12 เดือนข้างหน้าที่ร้อยละ 6.8 ซึ่งสูงมาก
คำถาม คือ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขณะนี้ เป็นภาวะเฉพาะในสหรัฐและประเทศในยุโรปหรือไม่ที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวดีจากผลของการฉีดวัคซีน หรือเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก
ในประเด็นนี้ตัวเลขชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศตลาดเกิดใหม่ก็เร่งตัวขึ้นเช่นกัน ที่บราซิลอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 9 ในเดือนกรกฎาคม อินเดียร้อยละ 5.6 ตุรกีร้อยละ 19 โปแลนด์ร้อยละ 5 เม็กซิโกร้อยละ 5.8 ชิลีร้อยละ 4.5 รวมถึงรัสเซียร้อยละ 6.5 ชี้ว่าการปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อขณะนี้เป็นปรากฏการณ์ทั่วโลกและสะท้อนแรงกดดันจากปัจจัยต้นทุนการผลิตที่มีมาก แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยังไม่เข้มแข็ง สำหรับประเทศไทยอัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ร้อยละ 0.5 เป็นตัวเลขที่ต่ำเทียบกับประเทศอื่น สะท้อนปัจจัยเฉพาะของประเทศเราที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวและอาจขยายตัวติดลบเป็นปีที่สองในปีนี้
ที่น่าสนใจคือ แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่จะยังไม่เข้มแข็งเทียบกับประเทศอุตสาหกรรม แต่ธนาคารกลางในประเทศตลาดเกิดใหม่หลายประเทศก็ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วแต่เนิ่นๆ เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและความเสี่ยงที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไปอาจมีผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาฟองสบู่ในตลาดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารกลางประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ บราซิล รัสเซีย เปรู เม็กซิโก เกาหลีใต้
ที่น่าสังเกตคือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวไม่ได้นำไปสู่ปัญหาเงินทุนไหลออกจากประเทศเหล่านี้อย่างที่มักห่วงกัน ชี้ว่า ตลาดเงินและนักลงทุนดูจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งในเหตุผลของการดูแลความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และในแง่ความน่าเชื่อถือหรือ Credibility ของธนาคารกลาง
นี่จึงเป็นโจทย์สำคัญต่อธนาคารกลางสหรัฐ โดยเฉพาะต่อประธานเฟดว่าควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่วางแผนไว้หรือไม่ ที่จะเริ่มโดยลดขนาดการอัดฉีดสภาพคล่องโดยการซื้อพันธบัตรภายในสิ้นปีนี้
ต้องเข้าใจว่าการลดการซื้อพันธบัตรเป็นขั้นตอนที่ต้องทำก่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นไม่ได้ตามกลไกตลาด ถ้าเฟดยังอัดฉีดสภาพคล่องโดยการซื้อพันธบัตรอยู่
ตั้งแต่เกิดโควิด ธนาคารกลางสหรัฐได้เข้าซื้อพันธบัตรเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องในอัตรา 120 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน นี่คือมาตรการคิวอี (QE) ที่ทำให้สินทรัพย์ในบัญชีธนาคารกลางสหรัฐเพิ่มเป็น 8.3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงมาก แต่แผนการลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดที่จะเริ่มภายในสิ้นปีนี้ในอัตรา 10 พันล้านต่อเดือนอย่างที่ตลาดการเงินคาดอาจน้อยและช้าเกินไป เพราะจะทำให้การอัดฉีดสภาพคล่องยังมีอยู่อย่างน้อยถึงสิ้นปีหน้า ผลคือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะช้ามาก โดยเฉพาะในกรณีอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวต่อเนื่องหรือไม่ชะลอลงในปีหน้า
นี่คือเดิมพันก้อนใหญ่ของประธานเฟด ที่ต้องการเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานเข้มแข็งกว่าปัจจุบันก่อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ประเด็นที่ตลาดการเงินและนักวิเคราะห์ห่วงขณะนี้จึงมีสามเรื่อง
หนึ่ง เฟดอาจประเมินความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อต่ำเกินไป เพราะมุ่งไปที่ปัญหาคอขวดด้านการผลิต ทำให้เฟดมองแรงกดดันเงินเฟ้อขณะนี้ว่าเป็นภาวะชั่วคราว ต่างกับหลายฝ่ายที่วิเคราะห์ว่าปริมาณเงินที่เฟดได้อัดฉีดด้วยมาตรการคิวอีและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นเวลานาน จะสร้างความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและปัญหาฟองสบู่ตามมาอย่างที่เคยเกิดขึ้นในหลายวิกฤติ
สอง เฟดควรรีบหยุดการใช้มาตรการคิวอีเพราะเศรษฐกิจได้พ้นจากภาวะฉุกเฉินของวิกฤติแล้วและกำลังฟื้นตัว การสนับสนุนเศรษฐกิจจากนี้ไปควรมาจากมาตรการการคลัง เพราะการอัดฉีดสภาพคล่องต่อเนื่องจะสร้างความเสี่ยงต่อปัญหาเสถียรภาพมากกว่าผลที่จะได้จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สาม ถ้าปัญหาคอขวดด้านการผลิตไม่คลี่คลาย แต่กลับรุนแรงขึ้นหรือยืดเยื้อจากปัจจัยภูมิศาสตร์การเมืองที่กระทบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและการขยายตัวของเศรษฐกิจ โจทย์ด้านนโยบายจะเปลี่ยนจากภาวะเงินเฟ้อมาเป็นเศรษฐกิจหดตัวพร้อมอัตราเงินเฟ้อสูง คือปัญหา Stagflation ที่ปัญหาเงินเฟ้อและการว่างงานเกิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้งานของเฟดจะยิ่งยากขึ้น
ดังนั้น สำหรับประธานเฟด เดิมพันคราวนี้ใหญ่จริงๆ
คอลัมน์เศรษฐศาสตร์บัณฑิต
โดย ดร.บัณฑิต นิจถาวร ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ภาพ @Schuldensuehner
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"