คลังขยายเพดานหนี้ 70% จี้รัฐอัดฉีดเงินฟื้นฟูธุรกิจเร่งด่วน

คลังชง “ประยุทธ์” ประธานคณะกรรมการวินัยการเงินการคลัง ขยับเพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% ของจีดีพี เผยเงื่อนไขขยายเพดาน “ชั่วคราว” 10 ปี ในช่วงวิกฤต สอดรับกับผู้ว่า ธปท.กระทุ้งรัฐบาลกู้เงินเพิ่ม 1 ล้านล้านดูแล ประสานเสียงจำเป็นต้องทำเพื่อเร่ง

“ฟื้นฟู” เศรษฐกิจ “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” ย้ำโจทย์ใหญ่รัฐบาลต้องกำหนดแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจหลังโควิด ที่ผ่านมามีแต่ “เยียวยา” ด้าน “สมหมาย” อดีตขุนคลังชี้ต้องมีแผนหารายได้ ชูขึ้น VAT “ดร.สมประวิณ” หนุนขยายเพดานก่อหนี้อัดฉีด “ฟื้นฟู-ปรับตัว”ภาคธุรกิจ
ชงขยายเพดานหนี้ 70%
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ข้อสรุปเรื่องการขยายเพดานหนี้สาธารณะแล้ว แต่จะต้องรอคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง รองประธาน พิจารณาเห็นชอบ ในการประชุมวันที่ 20 ก.ย.นี้
เบื้องต้นน่าจะขยายเพดานที่ระดับไม่เกิน 70% ต่อจีดีพี จากปัจจุบันอยู่ที่ 60% และการกู้เงินใกล้เต็มเพดานแล้ว ดังนั้นหากจะขยายแค่ 65% ก็อาจจะต่ำเกินไป
“คลังไม่ได้มีปัญหาที่จะขยายเพดานหนี้ แค่รอให้ผ่านช่วงอภิปรายไม่ใว้วางใจไปก่อน ปัจจุบันยังมีช่องว่างให้ขยายเพดานได้อีก ถ้าเทียบกับต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหนี้สาธารณะสูงกว่า 100% ถือว่าไทยยังมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่เหมาะสมอยู่ และในช่วงวิกฤตเช่นนี้ หากจะขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70-75% เพื่อดูแลประชาชน ก็สามารถทำได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังฯ” แหล่งข่าวกล่าว
มาตรการ “ชั่วคราว” 10 ปี
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงเงื่อนไขการขยายเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% ต่อจีดีพี เป็น “ไม่เกิน 70%” ว่า เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะเป็นการขยายแบบ “ชั่วคราว” เท่านั้น โดยมีเงื่อนไขต้องกลับมาอยู่ในต่ำกว่า 60% ของจีดีพีภายใน 10 ปี และต้องเสนอแผนการเพิ่มรายได้ภาษีเป็น 20% ของจีดีพี ภายใน 10 ปี ภายใต้สมมุติฐานเศรษฐกิจขยายตัว 3-5% และกรอบรายจ่ายงบประมาณไม่เกินปีละเท่าไรเข้ามาด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้รัฐบาลที่เข้ามาต่อจากรัฐบาลนี้ บริหารการเงิน การคลังภายใต้ข้อจำกัดและกรอบดังกล่าว และป้องกันการทำนโยบายประชานิยม แจกเงินเพื่อสร้างฐานเสียง และต้องแยกมาตรการการเงินที่ไม่มีประสิทธิผล กับการให้เงินสวัสดิการ ซึ่งจำเป็นและควรมีการปรับระบบสวัสดิการให้ทั่วถึงและมีความยั่งยืนด้วย ซึ่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม มีความจำเป็น ไม่ทำไม่ได้ แต่รัฐบาลต้องคำนึงถึงต้นทุนในการบริหารจัดการหลังวิกฤตโควิด
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจำเป็นจะต้องสร้างนโยบายการเงินกับความยั่งยืนทางการคลัง โดยมีช่องว่างหรือ “พื้นที่ทางการคลัง” เตรียมไว้สำหรับรับวิกฤตในโลกหลังยุคโควิด ซึ่งอาจจะเกิดวิกฤตอีกเมื่อไรก็ได้ จะได้ไม่ซ้ำรอยที่ผ่านมา เช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง ต้องลด VAT เป็น 7% จนปัจจุบันไม่เคยปรับขึ้น ต้องต่ออายุทุกปี เพราะไม่มีรัฐบาลไหนขึ้นภาษีแล้วเสียคะแนนเสียงทางการเมือง
อดีตขุนคลังชี้จำเป็นต้องทำ
นายสมหมาย ภาษี อดีต รมว.คลัง ในช่วงรัฐบาล คสช. กล่าวว่า ในช่วงภาวะวิกฤตเช่นนี้การขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะมีความจำเป็น หากมานั่งกังวลเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องไม่ใช่เรื่อง และจะแสดงว่ารัฐบาลทำงานไม่เป็น ดังนั้น เมื่อมีความจำเป็นก็ต้องขยาย
“สถานการณ์ขณะนี้แย่เต็มทีแล้ว และรัฐบาลก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาช่วยประชาชนแล้ว โดยรัฐจำเป็นต้องกู้เงิน เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นสวัสดิการให้กับประชาชนอีกมาก” นายสมหมายกล่าว
อย่างไรก็ดี เมื่อขยายเพดานหนี้แล้ว ต้องดูว่า จะกำกับดูแลไม่ให้เพิ่มมากเกินไปได้หรือไม่ หรือจะควบคุมให้อยู่ในระดับพอสมควรได้อย่างไร เช่น อยู่ในกรอบระหว่าง 60% ไม่เกิน 65% เนื่องจากหนี้สาธารณะเป็นตัวหารในจีดีพี ดังนั้น หากจีดีพียิ่งไม่โต ก็จะยิ่งแย่ แต่หากจีดีพีของไทยขยายตัวมากขึ้น ก็จะไม่มีปัญหา
ขึ้นภาษีหาช่องเพิ่มรายได้
“การขยายเพดานหนี้สาธารณะ เมื่อมีความจำเป็นก็ต้องทำ ส่วนควรจะอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ ก็บอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐ แต่จริง ๆ แล้วการขยายเพดานหนี้ก็น่ากลัว ถ้ารัฐไม่ได้บอกว่าอีกด้านจะหารายได้เพิ่มอย่างไร เพื่อให้สมดุลกับหนี้ที่เพิ่มขึ้น ท้ายที่สุดบริษัทจัดอันดับเรตติ้ง ก็จะลดเครดิตเรตติ้งประเทศไทย ถึงตอนนั้นเราก็ใกล้เตาเผาศพแล้ว ฉะนั้น รัฐจะต้องมีการดูแลในเรื่องรายได้เพื่อมาทดแทนด้วย ไม่ใช่บอกว่าจะขยายอย่างเดียว” นายสมหมายกล่าว
สำหรับแนวทางการเพิ่มรายได้นั้น อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า จะต้องไปทำให้รัฐมีรายได้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน เพื่อให้มีความสามารถในการไปใช้หนี้ อาทิ เข้าไปดูในเรื่องภาษีทรัพย์สิน ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างช้าในปี 2565 ควรจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 2%
นอกจากนี้ ก็ควรบริหารสัมปทานของรัฐ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้น เพื่อมาดูแลประชาชน
ศุภวุฒิชี้โจทย์อยู่ที่แผนใช้เงิน
ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เรื่องการขยายเพดานหนี้สาธารณะ หรือการกู้เงินเพิ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่ปีที่แล้ว และประเด็นสำคัญคือแผนการใช้เงินเพื่อกระตุ้นและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแผนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปีที่แล้วเศรษฐกิจติดลบไปแล้ว -6.1% ปีนี้ถ้าโตแค่ 1% ก็เหนื่อยแล้ว
“ที่ผ่านมารัฐบาลทำแต่มาตรการเยียวยาแรงงาน คนตกงาน แต่ยังไม่ได้มีการดูแลผู้ประกอบการ ผู้จ้างงาน ซึ่งเป็นผู้เสียภาษี เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่นที่สภาอุตฯออกมาบอกว่ารัฐบาลสั่งอย่างเดียว แค่ขอชุดตรวจ ATK ยังไม่มีการสนับสนุน และก็ยังไม่เห็นแผนหรือนโยบายของรัฐบาลที่จะสนับสนุนผู้จ้างงานเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจเดิน ปล่อยให้ผู้ประกอบการรับภาระปัญหาจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งขนาดปัญหาใหญ่มาก ปล่อยให้ภาคธุรกิจดิ้นรนไปเอง”
รัฐบาลต้องกำหนดทิศทาง
ดร.ศุภวุฒิกล่าวว่า รัฐบาลต้องมีแผนว่าจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยหลังโควิด-19 ไปในทิศทางไหน เพื่อที่จะได้มีการจัดสรรงบประมาณหรือเงินกู้ลงไปได้ตามแผน เพื่อคัดท้ายให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ แต่ตอนนี้รัฐบาลทำเหมือนก่อนจะมีโควิด ยังพูดถึงแต่การลงทุนในอีอีซี เหมือนกับว่าโควิดไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ทำทุกอย่างเหมือนเดิม
“ภาคท่องเที่ยวก่อนโควิด ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศ 12% ของจีดีพี หลังโควิดจะยังพึ่งพาภาคท่องเที่ยว 12% ของจีดีพีได้หรือ วางแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างไร หรือจะปรับไปพึ่งพาภาคส่งออกด้วยนโยบายอะไร ทุกอย่างไม่มีคำตอบ เหมือนตอนนี้รัฐบาลมองว่าวัคซีนคือคำตอบ ที่จะทำให้เปิดประเทศแล้วเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนได้ โดยไม่มีการวางแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอะไรเลย และปล่อยให้เอกชนดิ้นรนกันไป”
หนุนก่อหนี้ “ฟื้นฟูธุรกิจ”
ด้าน ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 หากจะขยายไปที่ระดับ 70% ต่อจีดีพี ถือเป็นระดับที่โครงสร้างประเทศยังรองรับได้ เนื่องจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคของไทยยังค่อนข้างดี จึงควรขยายกรอบเพดานหนี้ไว้เผื่อไว้
ซึ่งในต่างประเทศทุกคนมีการปรับเพิ่มหมด หากประเทศไทยไม่ขยายเพดานก็จะพลาดสร้างโอกาสการเติบโตและรับมือโลกหลังโควิด-19 เพราะการก่อหนี้เพิ่ม หรือการใช้เงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ มองว่าจะเป็นการสร้างรายได้และการเติบโตในระยะยาวและยั่งยืน
ผลการศึกษาของวิจัยกรุงศรีที่เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายใต้เม็ดเงิน 7 แสนล้านบาท อยู่ในมาตรการเยียวยาเท่านั้น แต่ยังต้องมีการกระตุ้นเพิ่มสำหรับ “มาตรการฟื้นฟู” เนื่องจากการปิดร้านค้า หรือโรงแรมเป็นเวลานาน จำเป็นต้องการเม็ดเงินในการฟื้นฟูกิจการให้กลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง รวมถึง “มาตรการปรับตัว” รับโลกหลังโควิด-19 ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น สหรัฐ ที่มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เรียกว่า new economy เป็นต้น
“มาตรการเยียวยา ฟื้นฟู และปรับตัว ที่วิจัยกรุงศรีเสนอ จำเป็นต้องใช้เม็ดเงินพอสมควร ดังนั้น การขยายเพดานหนี้เผื่อไว้เป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งมองว่านักลงทุนเองก็จะเข้าใจในการขยายกรอบครั้งนี้ แต่การขยับเพดานแล้วจะต้องคิดและวางแผนก่อนว่าการกู้เงินไปใช้เพื่ออะไร และใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพราะในท้ายที่สุดจะช่วยในเรื่องของความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตระยะยาว แต่หากกู้เงินมาเพื่อเป็นเงินโอนให้กับประชาชน ตรงนั้นจะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาว และไม่สร้างประสิทธิภาพต่อระบบเศรษฐกิจ”
ดร.สมประวิณกล่าวอีกว่า นอกจากวางแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้กรอบเพดานที่ขยายแล้ว จะต้องวางแผนเรื่องการหารายได้ เพื่อชำระหนี้ ซึ่งปกติรายได้จะกลับมาเข้าเมื่อเศรษฐกิจเติบโตได้ โดยรายได้จะมาจากการขยายฐานภาษี ซึ่งจะมาจากกิจกรรมของคนที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบอีกจำนวนมาก
โดยจากงานวิจัยขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ระบุไว้ว่า การจัดเก็บภาษีควรจะอยู่บนฐานสินทรัพย์มากกว่าฐานของรายได้ ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการช่วยกระจายความมั่งคั่งของประเทศ และลดการกระจุกตัวของกลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง หากมีการจัดเก็บภาษีในรูปแบบดังกล่าว
ผู้ว่า ธปท.กระทุ้งรัฐบาลกู้เพิ่ม
ขณะที่เมื่อ 16 สิงหาคม 2564 ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้ออกมาส่งสัญญาณชัดเจนถึงรัฐบาลว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ได้สร้าง “หลุมรายได้” ขนาดใหญ่ 2.6 ล้านล้านบาทในช่วงปี 2563-2565 เม็ดเงินของภาครัฐที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเพิ่มแรงกระตุ้นทางการคลัง เพื่อช่วยให้รายได้และฐานะทางการเงินของประชาชนและเอสเอ็มอีกลับมาฟื้นตัว และลดแผลเป็นทางเศรษฐกิจที่จะกลายเป็นอุปสรรคในการพัฒนาเศรษฐกิจหลังโควิด ทั้งระบุว่าเม็ดเงินจากภาครัฐที่เติมเข้าไปในระบบควรมีอย่างน้อย 1 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 7% ของจีดีพี
ในกรณีที่รัฐบาลกู้เงินเพิ่ม 1 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปสูงสุดที่ 70% ของจีดีพีในปี 2567 และจะลดลงได้ค่อนข้างรวดเร็ว ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและความสามารถในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่จะกลับมาฟื้นตัวเร็ว
นอกจากนี้กรณีที่รัฐบาลกู้เงินเพิ่ม จะพบว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีใน 10 ปีข้างหน้า (2574) จะต่ำกว่า กรณีที่รัฐบาลไม่กู้เงินเพิ่มถึง 5% เพราะการกู้และใส่เงินเข้าในตอนนี้เป็นการขยายเศรษฐกิจเพิ่มฐานภาษีและทำให้เศรษฐกิจเติบโตไปได้ ช่วยให้ภาระหนี้ลดลงในอนาคต
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"