เศรษฐกิจจีนเสี่ยงสะดุด หลังเผชิญปัญหาขาดแคลนพลังงานซ้ำเติมปัญหาหนี้ Evergrande กระทบห่วงโซ่ผลิต หวั่นสะเทือนถึงไทย

นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินชั้นนำพร้อมใจกันปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้และระยะข้างหน้า หลังจีนต้องเผชิญกับวิกฤตพลังงานและปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์จากกรณี Evergrande

การขาดแคลนพลังงานทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องหยุดการผลิตชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Apple, Tesla และ Toyota
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้ารวมถึงไทย โดยผลกระทบหลักจะอยู่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันจีนอาจส่งออกเงินเฟ้อเป็นลูกโซ่มาถึงไทย
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลกต่างพร้อมใจกันปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ลง โดย Goldman Sachs ปรับลดประมาณการ GDP จีนในปีนี้ลงจาก 8.2% เหลือ 7.8% Nomura ปรับลดจาก 8.2% เหลือ 7.7% และ Fitch ปรับลดจาก 8.4% เหลือ 8.1% ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley และ China International Capital Corporation ก็ได้ออกมาเตือนว่า เศรษฐกิจจีนในปีนี้อาจจะเติบโตได้ต่ำกว่าตัวเลขที่เคยคาดการณ์เอาไว้
สาเหตุสำคัญของการปรับลดคาดการณ์ GDP ครั้งนี้เกิดจากปัญหาวิกฤตขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าครั้งใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นผลมาจากการลดกำลังผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหินหลายแห่ง หลังจากที่ราคาถ่านหินในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับที่จะทำให้โรงไฟฟ้าเหล่านี้ขาดทุนจากราคาขายไฟฟ้าที่ถูกจำกัดเพดานไว้โดยรัฐบาลจีน
รายงานข่าวในประเทศจีนระบุว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตขาดแคลนพลังงานในครั้งนี้อย่างต่ำ 20 มณฑล โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีขนาดทางเศรษฐกิจรวมกันสูงถึง 66% ของ GDP ประเทศ หลายมณฑลยังเป็นฐานการผลิตทางอุตสาหกรรมที่สำคัญของจีน ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่า จะมีกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ได้รับผลกระทบมากถึง 44%
การขาดแคลนพลังงานที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลท้องถิ่นของแต่ละมณฑลต้องแบ่งสรรปันส่วนการใช้พลังงานระหว่างภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน โดยโรงงานอุตสาหกรรมจะมีตารางวันและเวลาในการตัดไฟจากนิคมอุตสาหกรรม เพื่อจะได้ให้ประชาชนในเมืองได้รับพลังงานก่อนในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟสูง
ปัญหาที่ตามมาคือ โรงงานอุตสาหกรรมไม่สามารถเดินเครื่องการผลิตได้เต็มที่ เพื่อให้เพียงพอกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด บางโรงงานต้องสั่งหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราว โดยโรงงานที่ได้รับผลกระทบหลายแห่งยังอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่างเช่น Apple, Tesla และ Toyota
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า ในเมื่อราคาถ่านหินจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจนกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า ทำไมจีนไม่ผลิตและใช้ถ่านหินจากในประเทศเพิ่มขึ้น ต้องบอกว่า เรื่องนี้มีความซับซ้อนมากกว่าแค่ราคาของถ่านหิน เนื่องจากมันเกี่ยวโยงกับ ‘วาระด้านสิ่งแวดล้อม’ ของจีนเองด้วย
ในช่วงที่ผ่านมาจีนได้ประกาศจะเป็นประเทศที่เป็นกลางทางคาร์บอน และต้องการลดการใช้ถ่านหิน ซึ่งปัจจุบันเป็นเชื้อเพลิงที่ผลิตไฟฟ้าในประเทศมากถึง 61%
นโยบายเศรษฐกิจสีเขียวของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ยังทำให้การเปิดเหมืองถ่านหินใหม่ๆ ทำได้ยากขึ้น จากมาตรฐานทางสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ขณะเดียวกันนโยบายดังกล่าวยังกดดันให้สถาบันการเงินส่วนใหญ่เลือกที่จะปฏิเสธการให้เงินทุนแก่ธุรกิจที่สร้างมลภาวะ
ในอดีต จีนเคยเป็นผู้นำเข้าถ่านหินรายใหญ่จากออสเตรเลีย แต่ได้ยุติการสั่งซื้อถ่านหินจากออสเตรเลียจากปัญหาข้อพิพาททางการเมือง หลังออสเตรเลียสนับสนุนให้มีการตรวจสอบจีนว่า อาจเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ขณะที่การนำเข้าถ่านหินจากมองโกเลียในช่วงที่ผ่านมาก็มีปริมาณลดลงจากการควบคุมพรมแดนที่เข้มงวดของจีน เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด
เบื้องต้นทางการจีนได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการปรับขึ้นราคาขายไฟฟ้าให้สอดคล้องกับต้นทุนราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น เพื่อทำให้โรงไฟฟ้ากลับมาผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังอีกครั้ง โดยจะเริ่มขยับราคาค่าไฟในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมก่อน ทั้งนี้ หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาขาดแคลนพลังงานได้ ทางการจะปรับขึ้นค่าไฟในกลุ่มครัวเรือนเป็นลำดับถัดไป
แม้ว่าการขยับค่าไฟฟ้าจะสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปได้ แต่บรรดานักวิเคราะห์ก็ยังกังวลว่า ปัญหาการขาดแคลนพลังงานยังพร้อมจะผุดกลับขึ้นมาใหม่ได้อีก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวของจีน ซึ่งความต้องการพลังงานจะเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนของจีนยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ขณะเดียวกันค่าไฟที่แพงขึ้นยังอาจส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อของจีน ซ้ำเติมเศรษฐกิจจีนที่บอบช้ำมาก่อนหน้าแล้ว จากการที่รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของ China Evergrande ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน
Evergrande
เมื่อพิจารณาจากปัจจัยเชิงลบต่างๆ แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่บรรดานักวิเคราะห์จะเริ่มมองว่า เศรษฐกิจจีนในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลง โดยล่าสุด Citi ได้ปรับลดประมาณการ GDP จีนในปีหน้าลงจาก 5.5% มาอยู่ที่ 4.9%
เชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ขณะนี้จีนมีโจทย์ทางเศรษฐกิจที่ต้องดูแลหลายด้านพร้อมๆ กัน เช่น กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับ China Evergrande การขาดแคลนพลังงานและนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้สำนักวิจัยหลายแห่งในโลกเริ่มมีมุมมองว่า เศรษฐกิจจีนจะโตได้ช้าลงในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้
“ปัจจัยหลักคงเป็นผลมาจากกรณี China Evergrande ส่วนปัญหาพลังงานน่าจะคลี่คลายได้ในเวลาไม่นาน เพราะเป็นปัญหาที่เกิดจาก Supply ในระยะสั้นจีนคงต้องเพิ่มราคาพลังงานในประเทศเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อปรับสูงขึ้น เช่นเดียวกับต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม แต่ก็ต้องจับตาดูว่าการขาดแคลนจะลากยาวไปถึงปลายปีหรือไม่ หากปัญหายังยืดเยื้อ โรงงานต้องปิดๆ เปิดๆ ก็จะส่งผลต่อการผลิตในห่วงโซ่ต่างๆ เป็นลูกโซ่ได้” เชาว์ระบุ
เชาว์กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้า รวมถึงไทยที่มีจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 โดยคาดว่าสินค้าที่น่าจะได้รับผลกระทบมากคือ กลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่สินค้ากลุ่มเกษตรอาจจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก
“ผลกระทบอาจจะต้องไล่ดูเป็นรายสินค้า แต่กลุ่มเกษตรคงกระทบไม่มาก เพราะเราไม่มีคู่แข่ง เช่น ทุเรียน เรายังนำโด่งทิ้งห่างคู่แข่ง ส่วนกลุ่มที่กระทบ ทางออกของปัญหาก็คือ ต้องรีบหาตลาดทดแทน สำหรับผลกระทบด้านอื่นๆ เช่น นักท่องเที่ยวจีน ช่วงนี้อาจจะยังไม่เห็น เพราะโควิดทำให้เขาไม่เดินทางมาอยู่แล้ว แต่ในระยะกลางอาจจะได้รับผลกระทบเช่นกันจากกำลังซื้อของจีนที่ลดลง” เชาว์กล่าว
อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าของจีนอาจส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น อย่างไรก็ดียังเชื่อว่า ภาครัฐจะเข้ามาอุดหนุนชดเชย ทำให้ประเด็นเงินเฟ้อไม่น่าจะรุนแรง
“เงินเฟ้อของจีนจะไม่รุนแรงถึงขั้นเป็น Stagfation จะเป็นเพียงแค่ High Inflation รูปแบบหนึ่งเท่านั้น ถ้าเทียบปัญหาเรื่องพลังงานกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์ต้องบอกว่า Evergrande ยังน่ากังวลกว่า เพราะอาจลุกลามไปถึงภาคสถาบันการเงินด้วย” อมรเทพกล่าว
อมรเทพกล่าวต่อว่า ประเด็นที่อาจต้องจับตาดูสำหรับประเทศไทยคือ การส่งออกเงินเฟ้อของจีนมายังบ้านเรา เนื่องจากไทยมีการนำเข้าสุทธิจากจีนค่อนข้างสูง ถ้าต้นทุนการผลิตในจีนเพิ่ม ราคาสินค้าวัตถุดิบต่างๆ ที่เรานำเข้าจะแพงขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
“ไทยอาจจะต้องเริ่มคิดว่าจะรับมือกับเงินเฟ้อในอนาคตอย่างไร ในภาวะที่เศรษฐกิจเรากำลังฟื้นตัวจากโควิด นโยบายดอกเบี้ยยังปรับขึ้นไม่ได้ นโยบายการคลังอาจจะต้องเข้ามามีบทบาทในการลดค่าครองชีพแทน” อมรเทพกล่าว
โดย ดำรงเกียรติ มาลา
Source: The Standard Wealth

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"