เศรษฐกิจไทยผ่านวิกฤต แต่คนไทยส่วนใหญ่กำลังวิกฤต

หลังจากที่ทั้งโลกและประเทศไทยตกอยู่ในวังวนวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 มาเกือบ 2 ปี แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วเมื่อไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในภาวะเปราะบาง
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะเป็นอย่างไร “ประชาชาติธุรกิจ”

ขอนำเสนอซีรีส์สัมภาษณ์ 3 นักเศรษฐศาสตร์ไฟแรง จาก 3 สำนักมาวิเคราะห์แนวโน้มและเส้นทางวิบากเศรษฐกิจไทย
ประกอบด้วย ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และ ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิจัยและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ฉบับนี้เริ่มต้นด้วย ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยปี 2565 ว่า ถ้าดูจากเศรษฐกิจไทยปีที่แล้วติดลบ -6.1% ปีนี้คาดว่าน่าจะโตได้ 0.5-0.7% น้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจที่หดตัวลงมา
เครื่องยนต์ “ท่องเที่ยว” ตัวแปร
ปีหน้าเศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มฟื้นกลับมามีนัยสำคัญมากขึ้น ตัวแปรสำคัญคือ “การท่องเที่ยว” หลังจากทั่วโลกฉีดวัคซีนได้เยอะ เมืองไทยถึงสิ้นปีก็น่าจะได้สัก 60% ของประชากร และปีหน้าจะทยอยดีขึ้น ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้การท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น
แต่ไม่ได้แปลว่านักท่องเที่ยวจะกลับมา 39-40 ล้านคนเหมือนเมื่อปี’62
“เราประมาณว่าปีหน้านักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 5.8 ล้านคน และจีดีพีไทยน่าจะโตได้ 3.9% ในปีหน้า แต่ท่องเที่ยวเป็นตัวแปรเศรษฐกิจที่มีความแกว่งมาก เพราะเราเปิดประเทศแต่ต่างชาติจะมาหรือเปล่ายังไม่รู้”
ขณะที่ความมั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาถึง 5.8 ล้านคนก็ยังน้อยมาก และถ้าเกิดระบาดระลอกใหม่ ปีหน้าก็อาจเห็นจีดีพีไทยโตแค่ 2-2% กว่า จะเป็นการโตช้าอีกปี
การเปิดประเทศเหมือนเป็นการซ้อมใหญ่ เพราะการเดินทางระหว่างประเทศยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวสำคัญของไทย คือ “จีน” ที่มีสัดส่วน 28-29% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย เชื่อว่าปีหน้าทั้งปีคนจีนไม่น่าจะออกมาเพราะนโยบายของทางการที่ยังควบคุมการเดินทาง
3 สัญญาณอันตรายปี’65
ดร.พิพัฒน์วิเคราะห์ว่า ประเด็นสำคัญเศรษฐกิจปีหน้ามี 3 เรื่องใหญ่ คือ 1.เรื่องสุขภาพ ว่าประเทศไทยจะสามารถคุมโรคระบาดได้มากแค่ไหน ซึ่งจากการเร่งฉีดวัคซีนที่เร็วขึ้น ตรวจ ATK รวมถึงต่างประเทศเริ่มมียารักษาออกมา ก็จะช่วยให้ความรุนแรงของโรคลดลงได้
2.เศรษฐกิจโลก เชื่อว่าค่อย ๆ ฟื้นแต่มีจุดเสี่ยงสำคัญ คือ “เศรษฐกิจจีน” จากกรณีเอเวอร์แกรนด์รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ของจีนเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนคิดเป็นราว 30% ของจีดีพี
ถ้าจัดการไม่ดีจะมีความเสี่ยงการหยุดชะงัก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างหนักได้ รวมถึงปัญหาขาดแคลนพลังงานและเรื่องโควิด-19 ที่จีนพยายามใช้นโยบาย zero COVID-19
“เรามองเศรษฐกิจจีนน่าจะโตประมาณ 4% ชะลอตัวจากปีนี้ที่โต 6-7% แต่กรณีมีความเสี่ยงรุนแรงจีดีพีอาจเหลือโตแค่ 2% ก็จะเกิด recession ในจีน”
ขณะที่ประเทศไทยส่งออกไปจีนประมาณ 13-14% ดังนั้น ความเสี่ยงส่งออกไทยก็มากขึ้น ทั้งที่ควรจะเป็นเครื่องยนต์สำคัญการฟื้นตัว
ข้อ 3.ความเสี่ยงที่กังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ คือ “เงินเฟ้อ” โดยเฉพาะต้นทุนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จากปัญหาข้อจำกัดด้านซัพพลายที่ทำให้เงินเฟ้อโลกขยับ โดยเฉพาะราคาน้ำมันขยับขึ้นค่อนข้างสูง ซึ่งกระทบเงินเฟ้อในเมืองไทยเช่นกัน ที่กลายเป็นต้นทุนผู้บริโภค ทำให้เงินที่จะไปซื้ออย่างอื่นก็จะลดลง
คือมีปัญหาทั้ง “ผู้บริโภค” จะมีกำลังซื้อลดลง และ “ผู้ประกอบการ” ก็จะมีปัญหาเหมือนกันเพราะเศรษฐกิจไทยที่ค่อย ๆ ฟื้นมาเจอต้นทุนแพงขึ้น ก็มีปัญหาจะส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้หรือไม่ ก็เป็นความเสี่ยง
ปีหน้าเป็นความท้าทายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเริ่มเห็นสัญญาณเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น แต่เศรษฐกิจยังไม่ดี จะทำอย่างไรกับนโยบายการเงิน เป็นความท้าทายของธนาคารกลางทั่วโลก
ครึ่งแรกปี’65 เศรษฐกิจ “ป๊อกแป๊ก”
ดร.พิพัฒน์มองว่า ในช่วงครึ่งปีแรกอาจจะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวแบบแผ่ว ๆ เพราะนักท่องเที่ยวยังมาไม่มาก ดังนั้น ครึ่งปีแรกคงยังป๊อกแป๊ก และถ้าครึ่งปีหลังนักท่องเที่ยวยังไม่ดีขึ้น ก็จะยิ่งกระหน่ำความเสี่ยงของเศรษฐกิจ
ปีหน้า “ท่องเที่ยว” จะมาเป็นเครื่องยนต์สำคัญจากเดิมที่เครื่องยนต์นี้ดับไปเลย มาเริ่มสตาร์ตติดช้า ๆ ขณะที่ “ส่งออก” ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวที่ทำงานอยู่ปีนี้ และน่าจะทำงานได้ต่อ แต่ถ้าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวหรือเศรษฐกิจจีนกระทบเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัว ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ส่งออกก็ไม่น่าเร่งตัวขึ้น
อีกความหวัง คือ การลงทุนภาครัฐที่จะมาช่วยเสริม แต่ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท สำหรับเยียวยา-กระตุ้นและฟื้นฟู แต่ที่สุดเป็นงบฯฟื้นฟูเพื่อลงทุนไม่ถึง 1 แสนล้าน เพราะการเบิกจ่ายช้าทำให้การลงทุนช้า ต้องทำอย่างไรที่จะหาโปรเจ็กต์และลงทุนให้ถูกจุด และสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจให้ได้เยอะสุด
ปีหน้าต้องเร่งมาตรการ “ซ่อมสร้าง”
ดร.พิพัฒน์กล่าวว่า มาตรการสำคัญในปีหน้า ถ้าให้ดีควรจะเป็นมาตรการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนมากขึ้น ความท้าทายของโลกหลังโควิด-19 ของเศรษฐกิจไทย คือ “ต้องซ่อมต้องสร้างอะไรบ้าง”
“ขณะที่การกระตุ้นการบริโภคก็ยังจำเป็น เพราะคิดว่าภาพการฟื้นตัวจะเป็นแบบ uncertain (ไม่แน่นอน) และ Uneven (ไม่สม่ำเสมอ) คือเราคิดว่าน่าจะฟื้นแต่ไม่รู้จะฟื้นจริงหรือเปล่า และ Uneven จะเป็นการฟื้นตัวแบบตัว K ฟื้นตัวอย่างไม่เท่าเทียม
K ขาบน คือ กลุ่มคนที่ WFH ได้มีรายได้เยอะ และมีเงินออมเหลือมาก ไม่ได้ออกจากบ้าน ไม่ได้เติมน้ำมัน ไม่ได้กินข้าวนอกบ้าน ไม่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น กลุ่มนี้มีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น”
แต่อีกฝั่งคนจำนวนมากที่รายได้ย่ำแย่เพราะว่าตกงาน ขาดรายได้ อยู่ในอุตสาหกรรมบริการท่องเที่ยว มีปัญหาหนี้
“ถ้าปีหน้านักท่องเที่ยวกลับมาไม่ถึง 1 ใน 4 ของเดิม การใช้แรงงานก็ไม่กลับไปที่เดิมแน่ ๆ ดังนั้น income shock ยังมีอยู่ จีดีพีไทยก็อยู่ระดับต่ำกว่าก่อนเกิดโควิด-19 กลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มที่ต้องซ่อม balance sheet ตัวเอง”
ดังนั้น ต้องมีการกระตุ้นเพื่อกลุ่ม K ขาบนออกมาใช้ตังค์กัน ขณะเดียวกันก็ต้องช่วยเยียวยาในกลุ่มที่มีปัญหารายได้ ซึ่งรัฐบาลคงดูอยู่ และมาตรการก็คงคล้ายกับที่ทำมา ไม่ว่าจะเป็นไทยเที่ยวไทย เราเที่ยวด้วยกัน หรือว่าคนละครึ่ง
และอีกเรื่องที่มีความจำเป็นต้องซ่อมสร้าง คือ “การศึกษา” เชื่อว่ามีความเหลื่อมล้ำสูงมากระหว่างเกิดโควิด-19 จะทำยังไงไม่ให้เกิด gap year ในการศึกษา ความพร้อมของเด็กลดลงมาค่อนข้างมาก
“นอกจากนี้ เรื่องทักษะการทำงานของคนก่อนโควิด-19 หลังจากไฟไหม้บ้านไป 2 ปี เปิดมาสิ่งแวดล้อมก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ถ้าทำอย่างเดิมเราอาจจะแข่งกับเขาไม่ได้แล้ว”
ศก.ไม่ได้วิกฤตแต่คนส่วนใหญ่อยู่ในวิกฤต
ดร.พิพัฒน์สรุปว่า วันนี้เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ภาวะวิกฤตแล้ว แต่อยู่ในภาวะโตช้า ส่วนที่เศรษฐกิจจะกลับไปในระดับก่อนโควิด-19 เชื่อว่าต้องรอไปถึงปี 2566
“แต่แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในวิกฤต แต่มีคนส่วนใหญ่ที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต จากที่โดนกระทบทำให้รายได้ไม่กลับมาเลย”
คำถามคือคนกลุ่มนั้นจะอยู่อย่างไร ในเมื่อรายได้ที่ยังไม่กลับไปเหมือน 2 ปีที่แล้ว
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"