วิวัฒนาการระบบการชำระเงินไทย

จาก 'เงินหอย' สู่ 'ดิจิทัล' : "...จากปีที่ 80 ของ ธปท. หากมองภาพไปข้างหน้า ระบบการชำระเงินไทยยังคงรองรับเงินทั้งที่เป็นเงินกระดาษ เงินอิเล็กทรอนิกส์ และเงินดิจิทัล แต่พฤติกรรมการชำระเงินที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

จะทำให้เงินที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์และเงินทางเลือกใหม่อย่างเงินดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ทดแทนการใช้เงินที่เป็นกระดาษ จนกลายเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงินของคนไทย ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมศักยภาพและการแข่งขันของไทย นำพาประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน..."
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต การพัฒนา “ระบบการชำระเงินไทย” มักจะเดินทางไปพร้อมกับวิวัฒนาการของเงิน จากเงินหอยสู่เงินกระดาษ จากเงินพลาสติกสู่เงินออนไลน์ และก้าวต่อไปสู่เงินดิจิทัล
จาก “เงินหอย” สู่ “เงินกระดาษ”
ในอดีต สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนหรือชำระเงินมีการพัฒนามาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคของการใช้สิ่งที่หาได้ตามธรรมชาติ เช่น ลูกปัด หนังสัตว์ น้ำผึ้ง และเปลือกหอย สู่ยุคที่ผลิตเงินขึ้นมาใช้ อย่างประกับดินเผา เงินพดด้วง เรื่อยมาจนถึงยุคการใช้เหรียญกษาปณ์ ต่อมาประเทศไทยได้ทำการค้ากับต่างประเทศมากขึ้น และระบบการเงินทั่วโลกได้พัฒนาเข้าสู่ยุคของการใช้ “เงินกระดาษ” หรือธนบัตรเป็นสื่อกลางในการชำระเงิน
ในปี 2504 ธปท. จึงได้จัดตั้งโรงพิมพ์ธนบัตร เพื่อผลิตธนบัตรออกใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และต่อมาได้จัดตั้งศูนย์จัดการธนบัตรเพื่อดูแลการกระจายธนบัตรผ่านธนาคารพาณิชย์ให้ประชาชนได้ใช้ธนบัตรที่มีสภาพดีอย่างทั่วถึง ด้วยกระบวนการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานนี้เอง ส่งผลให้ธนบัตรยังคงเป็นสื่อกลางในการชำระเงินที่น่าเชื่อถือและได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
นอกจากเงินกระดาษในรูปแบบของธนบัตรแล้ว ยังมีเงินกระดาษอีกประเภทหนึ่ง คือ “เช็ค” ที่นิยมใช้ในแวดวงการค้าและการทำธุรกิจ รองรับการทำธุรกรรมมูลค่าสูงหลักหลายพันล้านบาทได้ โดย ธปท. เป็นผู้ให้บริการระบบการเรียกเก็บเงินตามเช็คระหว่างธนาคาร มีการจัดตั้งสำนักงานกลางในการรับแลกเปลี่ยนเช็คระหว่างธนาคารขึ้นมาในปี 2512 ช่วยสนับสนุนให้การค้าและการทำธุรกิจด้วยเช็คดำเนินไปได้ดีในระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี การที่ธนาคารพาณิชย์ต้องนำเช็คมาที่ ธปท. เพื่อเรียกเก็บเงินต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการค่อนข้างนาน ไม่คล่องตัวทั้งต่อธนาคารพาณิชย์และภาคธุรกิจที่รอรับเงิน
ต่อมาในปี 2555 ธปท. จึงได้จัดตั้งระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็ค (Imaged Cheque Clearing and Archive System: ICAS) เพื่อรองรับการเรียกเก็บเงินด้วยภาพเช็คผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทน ทำให้ช่วยย่นระยะเวลาการเรียกเก็บเงินตามเช็คทั่วประเทศให้เหลือ 1 วันทำการ อีกทั้งยังช่วยให้การค้นหาข้อมูลสะดวกและรวดเร็ว ลดภาระการจัดเก็บเช็คฉบับจริง และเพิ่มความคล่องตัวให้การใช้เช็คอย่างราบรื่น
ในช่วงที่เศรษฐกิจของไทยมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ธุรกรรมการชำระเงินในแต่ละวันมีปริมาณและมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ลำพังแค่ธนบัตรและเช็คอาจไม่เพียงพอรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ธปท. จึงได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ คือระบบการโอนเงินหรือชำระเงินที่มีมูลค่าสูงเรียกว่า ระบบบาทเนต (Bank of Thailand Automated High-value Transfer Network: BAHTNET) เริ่มให้บริการปี 2538 รองรับธุรกรรมทั้งด้านตลาดเงินและตลาดทุนระหว่าง ธปท. กับสถาบันที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้ที่ ธปท.
ระบบบาทเนตเปรียบได้กับเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงระบบการเงินของประเทศ ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ลดต้นทุนและความเสี่ยงของระบบการชำระเงินโดยรวมได้ เนื่องจากสถาบันการเงินหันมาใช้ระบบบาทเนตในการชำระเงินระหว่างสถาบันแทนการใช้เช็คที่สถาบันผู้รับเงินมีความเสี่ยงจากการที่ยังไม่ได้รับเงินทันทีเนื่องจากต้องรอเข้ากระบวนการเรียกเก็บเงินตามเช็คก่อน
จาก “เงินพลาสติก” สู่ “เงินออนไลน์”
ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการพัฒนามาสู่ระบบการชำระเงินยุคใหม่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนการใช้เงินสดและเช็คที่มีต้นทุนในการจัดการสูง เริ่มจากยุคของ “เงินพลาสติก” ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม ที่เรามีติดกระเป๋ากันแทบทุกคน สามารถใช้จ่ายได้ไม่ต่างจากการใช้เงินสด และช่วยลดโอกาสเงินหายหรือถูกขโมยจากการพกเงินสดจำนวนมากอีกด้วย และเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้จ่ายด้วยบัตรเหล่านี้ ตั้งแต่ปี 2559 ธปท. และภาคธนาคารได้ร่วมกันผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยนบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มจากรูปแบบบัตรแถบแม่เหล็กแบบเดิมให้เป็นบัตรแบบชิปการ์ด เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้บัตร เนื่องจากเทคโนโลยีชิปการ์ดเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันการถูกมิจฉาชีพโจรกรรมข้อมูลไปทำบัตรปลอมได้
นอกจากบัตรพลาสติกที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์แล้ว ยุคของเงินพลาสติกนี้ถือว่าเป็นยุคที่เริ่มมีผู้ให้บริการหลากหลาย มีผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-bank) ออก “บัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)” เช่น บัตรโดยสารรถไฟฟ้า และในระยะหลังนี้ เงินพลาสติกได้ขยายบริการไปถึงบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถนำเงินที่เติมแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินต่างประเทศเพื่อใช้จ่ายที่ร้านค้าในต่างประเทศได้อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวก ลดการพกเงินสด และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้จ่ายของคนไทย
เมื่ออินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ประกอบกับการใช้ชีวิตและพฤติกรรมการชำระเงินที่เปลี่ยนไป เน้นความสะดวก รวดเร็ว ง่าย ทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางและระยะเวลาเปิดให้บริการเหมือนการทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร จึงนำไปสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของระบบการชำระเงินไทย โดยในปี 2558 กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินไทย ส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น โดย ธปท. มีบทบาทหลักในการดูแลโครงการพัฒนาระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) และโครงการขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์
ระบบพร้อมเพย์ เริ่มให้บริการปี 2559 เป็นระบบโอนเงินและชำระเงินแบบทันที ที่สะดวก รวดเร็ว และแทบไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมในหลายประเภทธุรกรรม ทำให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมมานิยมใช้ “เงินออนไลน์” ทำธุรกรรมผ่านช่องทางโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะโอนจ่ายซื้อสินค้ามูลค่าเล็กน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียค่าธรรมเนียมแพง
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งของระบบพร้อมเพย์คือ รองรับการโอนเงินด้วยรหัส ID ต่าง ๆ แทนการโอนเงินด้วยเลขที่บัญชีธนาคารแบบเดิม เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือหมายเลขประจำตัวประชาชน ที่ต่อยอดไปสู่การจ่ายเงินจากหน่วยงานภาครัฐให้แก่ประชาชนผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกเลขประจำตัวประชาชน เช่น การจ่ายเงินสวัสดิการและการคืนภาษีเงินได้แทนการจ่ายเป็นเช็ค กล่าวได้ว่านอกจากระบบพร้อมเพย์จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนและภาคธุรกิจในการโอนหรือรับโอนเงินได้อย่างรวดเร็วด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกลงแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐในการจ่ายเงินสวัสดิการได้ตรงจุดและลดค่าใช้จ่ายจากการใช้เช็คอีกด้วย
ระบบพร้อมเพย์ยังเอื้อให้เกิดบริการต่อยอดต่าง ๆ มากมาย เช่น การชำระเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด (QR code) ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด หรือการรับบริจาคเงิน ต่างก็หันมาวางป้ายรับเงินผ่าน QR เพิ่มความสะดวกให้แก่คนที่ไม่ได้พกเงินสด และช่วยลดการสัมผัสในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ จากข้อดีของการใช้จ่ายด้วยเงินออนไลน์ผ่านระบบพร้อมเพย์ที่สะดวก ทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลาและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกลงนี้เอง ส่งผลให้ปริมาณการโอนเงินและชำระเงินผ่านพร้อมเพย์เฉลี่ยต่อวันสูงถึง 29.5 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 94.1 พันล้านบาท (ข้อมูลเดือนกันยายน 2564)
ระบบพร้อมเพย์ยังรองรับการเชื่อมโยงการโอนเงินและชำระเงินระหว่างประเทศ (cross - border payment) ทำให้คนไทยสามารถสแกน QR ใช้จ่ายที่ห้างร้านในต่างประเทศ หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสแกน QR ใช้จ่ายที่ร้านค้าในเมืองไทยได้ ซึ่งเริ่มให้บริการแล้วในบางประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย และเมื่อเดือนเมษายน 2564 ภาคธนาคารได้เริ่มให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศแบบทันทีระหว่างไทยและสิงคโปร์ผ่านระบบพร้อมเพย์และระบบเพย์นาว (PayNow) ทำให้การค้าระหว่างประเทศหรือการส่งเงินกลับบ้านของแรงงาน ทำได้สะดวกรวดเร็วขึ้นด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกลงกว่าการโอนเงินระหว่างประเทศในอดีต
ก้าวต่อไปสู่ “เงินดิจิทัล”
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทางการเงินใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทต่อภาคการเงินการธนาคารเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบล็อกเชน (Blockchain) ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดเงินรูปแบบใหม่อย่าง Cryptocurrency หรือ “เงินดิจิทัล” เป็นที่รู้จักในวงกว้าง นอกจากการออกใช้เงินดิจิทัลของภาคเอกชนที่เห็นความนิยมเพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกแล้ว ธนาคารกลางหลายแห่งก็อยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) เช่นกัน โดยในประเทศไทย ธปท. ร่วมกับภาคเอกชนจัดตั้งโครงการอินทนนท์ในปี 2561 เพื่อศึกษาการนำเงินดิจิทัลมาใช้กับระบบการเงินไทย ทั้งการทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงิน (wholesale CBDC) ที่เป็นการทดสอบระบบการโอนเงินระหว่างสถาบันการเงินทั้งธุรกรรมการซื้อขายและการซื้อคืนพันธบัตร และการทดสอบการโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้ CBDC ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงิน ลดระยะเวลาและลดภาระการตรวจสอบธุรกรรมหลายขั้นตอน รวมถึงได้ศึกษาผลกระทบเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสำหรับรายย่อย (retail CBDC) ต่อภาคการเงินไทย และจะมีการพัฒนาและทดสอบการใช้งาน retail CBDC ในระยะต่อไป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนได้เข้าถึงเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยสูง
จากปีที่ 80 ของ ธปท. หากมองภาพไปข้างหน้า ระบบการชำระเงินไทยยังคงรองรับเงินทั้งที่เป็นเงินกระดาษ เงินอิเล็กทรอนิกส์ และเงินดิจิทัล แต่พฤติกรรมการชำระเงินที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้เงินที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์และเงินทางเลือกใหม่อย่างเงินดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ทดแทนการใช้เงินที่เป็นกระดาษ จนกลายเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงินของคนไทย ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมศักยภาพและการแข่งขันของไทย นำพาประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
Source: สำนักข่าว อิศรา

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"