โปรดระวัง! เศรษฐกิจโลก ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และแนวโน้มดอกเบี้ย

ปัจจัยต่างๆ ที่รุมเร้าเศรษฐกิจและการลงทุนโลกในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนต่างสับสนในทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในระยะต่อไป ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอลง การปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของ IMF แต่ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ

กลับแข็งแกร่งมาก หรือจะเป็นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ แต่องค์ประกอบภายในกลับเริ่มผ่อนคลายลง ขณะที่ในส่วนของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่รัสเซียส่งกำลังกว่า 1.3 แสนนายตรึงชายแดนยูเครน แต่กลับปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีแผนที่จะบุกยึดยูเครน
ภาพความสับสนงุนงงเหล่านี้ทำให้การคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจการลงทุนต่อไปทำได้ยาก โดยเฉพาะการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงต่อไป ดังนั้นบทความนี้จะไล่เรียงภาพเศรษฐกิจล่าสุด ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงมุมมองของเราต่อทิศทางนโยบายการเงินโลก ดังนี้
1. ภาพเศรษฐกิจโลก
หากพิจารณาภาพเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะเห็นว่าเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวลง โดยหากพิจารณาจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมถึงดัชนีจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เริ่มชะลอชัดเจน โดยเฉพาะภาคบริการที่เป็นผลจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแม้จะมีผลชั่วคราว เพราะเมื่อการระบาดบรรเทาลงก็จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สัญญาณเช่นนี้เริ่มเป็นการบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจโลกในภาพรวม โดยเฉพาะในประเทศเจริญแล้ว เริ่มชะลอลง
ภาพเหล่านี้สะท้อนกับการคาดการณ์เศรษฐกิจของ IMF ที่ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงจาก 4.9% เป็น 4.4% เป็นผลทั้งจากมาตรการการคลังที่จะลดลงในปีนี้ (โดยเฉพาะนโยบาย Build Back Better ของสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากปัญหาการเมือง) นโยบาย Zero COVID ของจีน ที่พร้อมจะปิดเมืองหากพบการระบาดของโรคโควิด และจากต้นทุนการผลิตและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและกระทบภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม IMF เชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อสูงทั่วโลกจะผ่อนคลายลงภายในปีนี้
ในส่วนของเงินเฟ้อ แม้ตัวเลขเงินเฟ้อของทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศเจริญแล้ว จะยังคงสูงต่อเนื่อง แต่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในส่วนขององค์ประกอบเงินเฟ้อฝั่งการผลิตและค่าเช่า รวมถึงค่าจ้าง โดย 2 องค์ประกอบหลังเป็นเครื่องบ่งชี้ภาวะ Inflation Expectation หรือความคาดหวังเงินเฟ้อ ได้ดีระดับหนึ่ง
โดยล่าสุด เงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 5.1% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่เมื่อพิจารณาองค์ประกอบภายในแล้ว มีประเด็นที่น่าสนใจ โดยจะเห็นว่าแรงกดดันด้าน Supply Chain เริ่มลดลงต่อเนื่อง หลังจากเริ่มมีการกลับมาผลิตมากขึ้น เช่น เงินเฟ้อจากสินค้าภาคอุตสาหกรรมของยุโรปในเดือนมกราคม ลดลงแรงจาก 2.9% เป็น 2.3% แต่เป็นเพราะราคาพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน ที่ปรับขึ้นจาก War Premium (ผลจากความเสี่ยงสงครามในยูเครน) ที่เป็นตัวผลักทำให้เงินเฟ้อของยูโรโซนปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่หากพิจารณาในฝั่งสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่าราคาบ้าน (ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนค่าเช่าบ้าน ซึ่งค่าเช่าบ้านเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเงินเฟ้อสหรัฐฯ) เริ่มมีอัตราลดลงจากระดับ 20% ลงสู่ระดับ 18% ซึ่งประเด็นราคาบ้านที่เริ่มลดลงนี้มาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย 30 ปี (30-Year Mortgage Rate) ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3.8% เร่งขึ้นจากระดับ 2.8% เมื่อกลางปีที่ผ่านมา
อีกประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ คือ พัฒนาการของตลาดแรงงาน แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงบ้าง แต่ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ค่อนข้างแข็งแกร่ง ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ล่าสุดในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นถึง 4.7 แสนตำแหน่ง นอกจากนั้นกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ยังมีการปรับตัวเลขของ 2 เดือนก่อนหน้าขึ้นอีกกว่า 7 แสนตำแหน่งด้วย บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงพร้อมรับแรงงานที่กำลังหางาน นอกจากนั้นหากพิจารณาการปรับเพิ่มขึ้นของค่าจ้างรายสัปดาห์ (Average Weekly Earnings) พบว่า ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากที่เคยขยายตัวที่ 5.3% กลับปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.2% ในปัจจุบัน บ่งชี้ว่า นายจ้างเริ่มมีการรับลูกจ้างกลับมาทำงานมากขึ้น จึงเริ่มไม่จำเป็นที่จะต้องขึ้นค่าจ้างเพื่อดึงลูกจ้าง ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อผ่านค่าจ้าง (หรือที่เรียกว่า Wage-Price Spiral) ในระยะต่อไปลดลง
ทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่า เริ่มมีสัญญาณเบื้องต้นว่าเงินเฟ้อในระยะต่อไปจะสามารถลดลงได้ ผลทั้งจากฝั่งการผลิตที่ปัญหาคอขวดด้านอุปทาน (Supply-Chain Bottleneck) เริ่มคลี่คลาย และฝั่งค่าเช่าและค่าจ้างที่เริ่มเห็นสัญญาณคลี่คลายลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อคงอยู่ในระดับสูง ได้แก่ ราคาพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่ยังวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI ปรับเพิ่มขึ้นเกิน 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว (และเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน
ซึ่งหากพิจารณาที่ปัจจัยพื้นฐานของน้ำมันแล้วจะเห็นได้ว่า ราคาที่พุ่งสูงขึ้นระดับนี้เกินกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก โดยปัจจุบันความต้องการน้ำมันทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่กำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 98 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่วนต่างที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันนี้ไม่น่าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมาถึงระดับปัจจุบันได้ โดยจากการคำนวณของเรา ราคาน้ำมันดิบตามปัจจัยพื้นฐานน่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยไตรมาส 3/21 ที่ 71.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเล็กน้อย ดังนั้นราคาที่ปรับสูงขึ้นมากเกินไปนี้น่าจะสะท้อน War Premium รวมถึงผลจากการเก็งกำไร
2. ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์
ในส่วนสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียเรามองว่าแม้ความตึงเครียดยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่โอกาสในการที่รัสเซียจะส่งกองกำลังเข้าบุกยูเครนอาจมีไม่มากนัก เนื่องจากหากบุกเข้ายึดแล้วจะถูกคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจ รวมถึงได้รับการตอบโต้จากยูเครนและพันธมิตร โดยในปัจจุบันสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ได้เตรียมระดับการตอบโต้ดังนี้
ด้านการทหาร: สหรัฐฯ ได้เตรียมกำลังพลประมาณ 10,000 นายประจำการอยู่ในแถบยุโรปตะวันออกใกล้ยูเครน และพร้อมเข้าช่วย นอกจากนั้นกองทัพของยูเครนเองก็ได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์จากทางสหรัฐฯ และ NATO เช่นกัน
ด้านเศรษฐกิจ: สหรัฐฯ ได้เตรียมที่จะดำเนินการตอบโต้ดังนี้
ตัดการเข้าถึงระบบการโอนเงิน SWIFT ของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้การโอนเงินของรัสเซียไปยังต่างประเทศทำได้ยาก
มีแผนห้ามสถาบันการเงินสหรัฐฯ ทำธุรกิจกับธนาคารขนาดใหญ่ของรัสเซีย เช่น VTB, Gazprombank และ Sberbank
มีแผนจะแบนการส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังรัสเซีย
แบนผู้นำรัสเซียรวมถึงปูติน ในการเข้าถึงบริการทางการเงินสหรัฐฯ
ด้วยการตอบโต้ทางการทหารและทางเศรษฐกิจเช่นนี้ทำให้เรามองว่ามีโอกาสไม่มากนักที่รัสเซียจะโจมตียูเครน โดยเราให้โอกาสประมาณ 20-30% โดยอาจเป็นการบุกแบบ Thunder Run คือเข้าเร็วและออกเร็ว และทำให้เกิดขวัญและกำลังใจของประชาชนยูเครนตกต่ำลง เพื่อจะทำให้เกิดการเปลี่ยนรัฐบาลและเลือกผู้นำที่เป็นมิตรกับรัสเซียมากกว่า เราจึงมองว่ามีโอกาสน้อยที่ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นถึง 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นราคาน้ำมันที่จะไปถึงหากเกิดสงคราม และจะทำให้ความเสี่ยงเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เรามองว่าต้องติดตามสถานการณ์ด้านรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด
3. แนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยโลก
ด้วยทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มชะลอลง ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง ยกเว้นในส่วนของ War Premium ที่ผลักดันให้ราคาน้ำมันอยู่สูงกว่าระดับที่ควรจะเป็นไปมาก ทำให้เรามองว่านโยบายการเงินในภาพรวมไม่ควรจะตึงตัวเกินไป เนื่องจากภาระหนี้ทั่วโลกในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงมาก
จากงานวิจัยของนิตยสาร The Economist พบว่า ปัจจุบันมูลหนี้ทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นจากระดับ 83 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2000 เป็น 295 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน หรือกว่า 3 เท่าของ GDP โลก โดยในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ครัวเรือน ภาคเอกชน รวมถึงภาครัฐทั่วโลกมีรายจ่ายดอกเบี้ยรวมกันทั้งสิ้น 10.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12% ของ GDP ซึ่งหากดอกเบี้ยทั่วโลกขึ้น 1% จะทำให้ภาระดอกเบี้ยขึ้นเป็น 15% ของ GDP แต่หากดอกเบี้ยขึ้น 2% จะทำให้ภาระดอกเบี้ยขึ้นถึงเกือบ 20% ของ GDP โลก ซึ่งจะทำให้ประเทศในยุโรป สหรัฐฯ รวมถึงจีน ประสบปัญหา เนื่องจากมีระดับหนี้ต่อรายได้ที่สูงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
งานวิจัยของ The Economist สอดคล้องกับงานศึกษาของเราที่พบว่า หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขึ้นดอกเบี้ยและทำถอนสภาพคล่อง (หรือมาตรการ Quantitative Tightening: QT) เร็วเกินไป ท่ามกลางเศรษฐกิจที่จะชะลอลง จะทำให้เศรษฐกิจและ/หรือตลาดการเงินเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ (ตามที่ได้เขียนไว้ในบทความ ‘เปิด 3 ไพ่โจ๊กเกอร์เศรษฐกิจและการลงทุน ปี 2022’) โดยหาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยทุกๆ ไตรมาส รวมทั้งทำมาตรการ QT ให้ดอกเบี้ยระยะยาวปรับเพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกันแล้ว อาจทำให้เศรษฐกิจ/ตลาดการเงินสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่ 2/23 ได้
หลักฐานทั้งหมดนี้ทำให้เราเชื่อว่า ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ รวมถึงทั้งโลกนั้น ไม่น่าจะปรับสูงขึ้นได้มากและรวดเร็วนัก โดยในกรณีของดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เรามองว่าเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ใน 3 การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ติดต่อกัน คือ การประชุมเดือนนาคม, พฤษภาคม และมิถุนายน ขณะที่การทำมาตรการ QT นั้นเป็นไปได้ที่จะเริ่มเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยและถอนสภาพคล่องในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปจะทำให้เศรษฐกิจรับได้และไม่เกิดสภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขสำคัญคือ เงินเฟ้อจะต้องเริ่มลดระดับลงในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งหากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง อาจทำให้ธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะ Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าที่ควรจะเป็น และทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้
เศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอ เงินเฟ้อที่เริ่มเห็นสัญญาณลดลง แต่ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นอุปสรรค เหล่านี้คือปัจจัยที่จะฉุดรั้งเศรษฐกิจและการลงทุนโลกในยุคถัดไป นักธุรกิจและนักลงทุนทั้งหลายโปรดระมัดระวัง
โดย ปิยศักดิ์ มานะสันต์
Source: Standard Wealth

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"