ยูเครน น้ำมัน เงินเฟ้อ และนโยบายการเงินโลก

ณ ชั่วโมงนี้ สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจการลงทุนที่่ร้อนแรงที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นความเสี่ยงสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 8 ปี โดย ณ ปัจจุบันที่เขียนบทความ กองทัพรัสเซียยังไม่ได้บุกเข้าโจมตียูเครนอย่างเป็นทางการ

แต่โอกาสที่จะเกิดสงครามระหว่าง 2 ประเทศก็เป็นไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้น บทความนี้ จะพิจารณาโอกาสและความเป็นไปได้ในการเกิดสงคราม ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ รวมถึงแนวนโยบายการเงินโลกโดยเฉพาะสหรัฐ
หากมองข้ามพัฒนาการรายวัน แต่มองถึงสาเหตุของความตึงเครียดดังกล่าว จะเห็นได้ว่าเกิดจากการที่ยูเครนสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งได้คืบหน้าจนกระทั่งเดือน มิ.ย. ปี 2020 ที่ยูเครนได้รับการเข้าร่วมสมาชิก NATO's enhanced opportunity partner ซึ่งเป็นดั่งสมาชิกเสริม แม้ศักดิ์และสิทธิ์จะไม่เท่ากับการเป็นสมาชิกนาโต้เต็มรูปแบบก็ตาม ซึ่งประธานาธิบดีปูติน ของรัสเซียไม่เห็นด้วยและต่อต้านการเข้าร่วมดังกล่าว จนนำมาสู่การเพิ่มความตึงเครียดในที่สุด
ดังนั้น หนทางที่จะลดความตึงเครียดก็ต้องเกิดจากการที่ NATO ปฏิเสธการเข้าร่วมเป็นสมาชิกหรือยูเครนถอนตัวจากการสมัครเป็นสมาชิกดังกล่าว หรือมิฉะนั้น ทางยูเครนก็ต้องยอมรับที่จะยังเป็นประเทศเอกราชแต่ไม่สามารถกำหนดนโยบายการต่างประเทศของตนเองได้ เหมือนกับที่สหภาพโซเวียตเคยใช้กำลังทหารกดดันฟินแลนด์ในช่วงปี 1970 ไม่ให้ฟินแลนด์เข้าร่วม NATO เช่นกัน (หรือที่เรียกว่ากระบวนการ Finlandization) แต่เมื่อแต่ละฝ่าย (ทั้งสหรัฐและชาติพันธมิตร NATO, ฝ่ายรัสเซีย และฝ่ายยูเครน) ยังไม่มีใครยอมใคร โอกาสที่จะเกิดสงครามก็เป็นไปได้
ในส่วนของผลต่อเศรษฐกิจโลกหากเกิดสงครามนั้น แน่นอนว่าจะกระทบต่อราคาโภคภัณฑ์โดยเฉพาะเชื้อเพลิง เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับ 1 และน้ำมันอันดับ 2 อลูมิเนียมและทองแดงอันดับ 10 ขณะที่ยูเครนเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีที่สำคัญ โดยมีสัดส่วนรวมกับรัสเซียถึงกว่า 30% ของการส่งออกโลก การเกิดสงครามจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาน้ำมันอาจไปแตะระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่อลูมิเนียมอาจขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในส่วนของการค้านั้น รัสเซียและยูเครนมีสัดส่วนการนำเข้าและส่งออกโลกรวมกัน 2.1% และ 2.0% ตามลำดับ สงครามระหว่างสองประเทศอาจทำให้การค้าโลกขยายตัวลดลงจากประมาณ 6% เป็น 4% เป็นอย่างน้อย โดยกลุ่มประเทศในยุโรปจะได้รับผลกระทบเป็นหลัก โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ซึ่งยุโรปพึ่งพารัสเซียเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้นมาก เกิดวิกฤตพลังงาน และทำให้เงินเฟ้อสูงได้
ในส่วนของเงินเฟ้อนั้น ทาง SCBS ได้ทำการ Sensitivity analysis ผลของเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน โดยจากการวิเคราะห์พบว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปัจจุบันควรจะอยู่ที่ประมาณ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากส่วนต่างระหว่างความต้องการ (Demand) และปริมาณการผลิต (Supply) ของน้ำมันโลก ณ ไตรมาสที่่ 4/2021 ต่อไตรมาสที่ 1/2022 (ข้อมูลล่าสุด) อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไม่แตกต่างจากช่วงไตรมาสที่ 3/2021 แต่ที่ราคาแตกต่างกันมากเป็นเพราะความเสี่ยงสงคราม (war premium) และสภาพคล่องที่ยังคงอัดฉีดจากธนาคารกลางชั้นนำโดยเฉพาะสหรัฐ (Fed)
ดังนั้น หากความเสี่ยงสงครามผ่อนคลายลง ราคาน้ำมันอาจกลับไปลดลงอยู่ที่เฉลี่ยที่ประมาณ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เงินเฟ้อสหรัฐอาจอยู่ที่ประมาณ 4.5% ขณะที่เงินเฟ้อไทยอาจอยู่ที่ประมาณ 1.6% โดยอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงในช่วงต้นปีก่อนที่จะลดลงในช่วงปลายปีจากปัจจัยฐานที่กลับมาเป็นปกติมากขึ้น
แต่ถ้าความเสี่ยงสงครามจะรุนแรงยืดเยื้อแต่ไม่ถึงกลับเกิดสงครามร้อนเต็มรูปแบบ อาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับ 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในบางช่วงก่อนตกลง ซึ่งจะทำให้ราคาทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อสหรัฐและไทยอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 5.8% และ 2.1% ตามลำดับ แต่หากเกิดสงครามเต็มรูปแบบและราคาน้ำมันไปอยู่ที่ 100-120 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เงินเฟ้อจะพุ่งและลดลงได้ยาก และทำให้การดำเนินนโยบายการเงินทำได้ยากขึ้น
ณ ปัจจุบัน ด้วยสมมุติฐานเฉลี่ยเงินเฟ้อของสหรัฐในปีนี้ที่ 4.5% เรามองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะเป็น Front-load หรือขึ้นมากในช่วงแรก กล่าวคือ ในครึ่งปีแรกอาจขึ้นถึงระดับ 1% แต่ครึ่งปีหลังอาจขึ้นเพียง 0.25% เนื่องจากเงินเฟ้อบรรเทาลง อย่างไรก็ตาม การขึ้นดอกเบี้ยจะมาพร้อมกับการถอนสภาพคล่องหรือนโยบาย QT เดือนละประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์ เริ่มในไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี อยู่ที่ประมาณ 2.3% ในช่วงสิ้นปี จากประมาณ 1.9-2.0% ในปัจจุบัน
ด้วยการตึงตัวขึ้นของนโยบายการเงินในระดับนี้เอง ทำให้ในปี 2023 ดอกเบี้ยนโยบายอาจไปอยู่ที่ประมาณ 2% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีอาจอยู่ที่ 2.5-2.6% ในช่วงประมาณไตรมาสที่ 3/2023 ซึ่งผลตอบแทนในระดับดังกล่าว มากกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP Growth) ที่อยู่ที่ 2.2% ซึ่งการที่ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี (ซึ่งสะท้อนต้นทุนการเงินของภาคเอกชน) มีระดับสูงกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ (ซึ่งสะท้อนการขยายตัวของรายได้) จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 จนทำให้ Fed ต้องยุติการขึ้นดอกเบี้ยและ/หรือการทำ QT
กล่าวโดยสรุปคือ แม้ภาพเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในปัจจุบันที่ยังไม่ได้รวมสมมุติฐานการเกิดสงครามร้อนระหว่างรัสเซียกับยูเครน ยังมีความเป็นไปได้สูงที่อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำขึ้นในปีหน้า แต่ถ้า สงครามเกิดขึ้น หรือแม้แต่ภาวะตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อหรือรุนแรงขึ้น โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยหรือกลับมาทำ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยิ่งยากขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ดังนั้น ความเสี่ยงเศรษฐกิจและการลงทุนโลกในระยะต่อไปจึงค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม หาก Fed ผ่อนคลายการตึงตัวนโยบายการเงินในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ต่อเนื่องปีหน้า ประกอบกับเศรษฐกิจที่ยังมีแรงส่งต่อเนื่องในปี 2023 ก็ยังเป็นไปได้ที่จะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปี 2023-24
สงคราม เงินเฟ้อ และนโยบายการเงิน คือ 3 ปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์
Source: กรุงเทพธุรกกิจออนไลน์

 

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"