วิบากกรรมเศรษฐกิจไทย แสงสว่างปลายอุโมงค์ทยอยดับ

ไตรมาสแรกของปีผ่านพ้นไป สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทย ดูเหมือนจะยากลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มถูกพูดถึงความเสี่ยงจะถดถอยกันมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็ฟื้นช้า

และตอนนี้หลายสำนักต่างปรับลดประมาณการอัตราขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ (จีดีพี) ลงกันเป็นทิวแถว
เพราะมองไปข้างหน้าดูเหมือนจะเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยง ประเทศไทยจะรับมือกันอย่างไร “ประชาชาติธุรกิจ” ได้พูดคุยกับ “ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) วิเคราะห์ถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ
ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี
ดร.พิพัฒน์กล่าวว่า เดิมเปิดต้นปี 2565 มา คิดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะเจอ “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” เพราะอยู่ในอุโมงค์มาแล้ว 2 ปี โดยคาดว่าการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนน่าจะจบได้ในไตรมาสแรก แต่สุดท้ายก็ยังไม่จบ แถมมาเจอภาวะเงินเฟ้ออีก
ยิ่งมีสงครามรัสเซียกับยูเครนเข้ามาซ้ำ ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก นอกจากนี้ การท่องเที่ยวที่เดิมคาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้น เดิมคาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ 6 ล้านราย แต่ล่าสุดก็ต้องปรับลดลงเหลือ 5 ล้านราย ซึ่งยังพอจะลุ้นได้
“เราอยู่ในอุโมงค์มา 2 ปี ก็น่าจะเริ่มเห็นแสงสว่าง ก็นึกว่าโอมิครอนจะจบในไตรมาสเดียว แต่ก็ไม่จบ ดันเจอเงินเฟ้อจากสงครามรัสเซียกับยูเครนอีก ซึ่งน่าห่วงมากเลย แล้วก็เรื่องการท่องเที่ยว ราคาน้ำมันแพง ตั๋วเครื่องบินก็แพง ซึ่งดูแล้วตลาดจีนคงไม่มา รัสเซียก็คงไม่มา ส่วนยุโรปก็ลำบาก ดังนั้น เทียบกับความหวังเมื่อตอนต้นปี ถึงตอนนี้หลายเรื่องก็ดูความหวังน้อยลง”
จับตา 3 ปัจจัยกระทบหนัก
โดย 3 ปัจจัยที่เรียกว่าจะกระทบไทยหนักพอสมควร ได้แก่ 1.เงินเฟ้อ ที่มาจากต้นทุนพลังงาน ราคาน้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ, ถ่านหินแพงขึ้น 2.ราคาโลหะเพิ่มขึ้น เพราะรัสเซียเป็นผู้ผลิต ทั้งเหล็ก นิกเกิล ทองแดง ซึ่งจะกระทบค่าก่อสร้างปรับขึ้นแน่นอน และ 3.สินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวสาลีกับข้าวโพด จะกระทบต้นทุนอาหารสัตว์ แล้วที่เป็นห่วงมากก็คือ ปุ๋ย เพราะเมืองไทยนำเข้าปุ๋ยจำนวนมาก
ค่าครองชีพพุ่งซ้ำเติมหนี้ครัวเรือน
นอกจากนี้ ไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงเกิด stagflation แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะบอกว่ายังไม่ใช่ โดย ธปท.มองว่าเศรษฐกิจยังโตได้มากกว่า 3% โตสูงกว่าระดับศักยภาพอยู่ แต่ความเสี่ยงก็คือ เศรษฐกิจจริง ๆ จะโตไม่ถึง 3%
และอีกประเด็นคือ แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมอาจจะยังไม่รู้สึก แต่ถ้าถามคนหลายคน ก็เรียกได้ว่าเข้าสู่ stagflation แล้ว เพราะรายได้โตไม่ทันค่าครองชีพ ซึ่งจะเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่ และไปซ้ำเติมปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาที่ใหญ่อยู่แล้วให้ยิ่งใหญ่เข้าไปอีก
“ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เกิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดจากคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย แต่เกิดจาก income shock โดยคนอยากใช้จ่ายเหมือนเดิม แต่รายได้ไม่มาเท่าเดิม หรือธุรกิจหลายอย่างก็ไปต่อไม่ได้ กลายมาเป็นหนี้ แล้วมาตอนนี้ฝั่งรายได้ยังไม่ทันจะดีขึ้น ฝั่งรายจ่ายขึ้นกระจาย วิธีแก้ดีที่สุด คือ ทำให้เศรษฐกิจกลับไปเดินได้ เพราะตราบใดที่เศรษฐกิจเดินไม่ได้ ก็จะมีปัญหา”
ส่อลามกระทบค่าจ้าง-ดันต้นทุนสินค้า
ดร.พิพัฒน์กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อสูง อาจจะชั่วคราว แต่ถ้าค้างนาน ๆ จะทำให้เกิดการคาดการณ์เงินเฟ้อสูง ซึ่งจะได้เห็นการขอขึ้นทางด่วน ขอขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ และสินค้าทุกอย่างจะขยับขึ้นตามกัน เป็นสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์และ ธปท.กลัว เพราะจัดการได้ลำบาก
ทั้งนี้ ตามปกติหากเศรษฐกิจร้อนแรง วิธีแก้เงินเฟ้อที่ดีที่สุด คือ การแตะเบรก โดยขึ้นดอกเบี้ย และรัดเข็มขัดทางการคลัง แต่วันนี้เงินเฟ้อมาจากต้นทุน และเศรษฐกิจไม่ดีด้วย ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลสุด คือ ค่าจ้างขั้นต่ำ ถ้าปรับสูงขึ้น ก็อาจจะเกิดภาวะขาดแคลนแรงงานได้หลังจากนี้
“วันนี้ถ้าแตะเบรก ก็จะซ้ำเติมเศรษฐกิจ เผลอ ๆ จะหัวทิ่มกันหมด ทำให้ ธปท.วันนี้ยังไม่ทำอะไร แล้วก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้ แต่คำถามคือ หากทิ้งไว้นาน ๆ จะแก้ยาก ดังนั้น ก็ต้องมอนิเตอร์ แล้วก็เทกแอ็กชั่นส่งสัญญาณอะไรบางอย่างออกมา”
ปุ๋ยแพงกระทบ “ชาวนา-คนกินข้าว”
ขณะที่ประเด็นปุ๋ยแพง ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก เพราะหากไปดูดัชนีราคาปุ๋ยโลก วันนี้ขึ้นมา 2-3 เท่าแล้ว จึงเป็นความเสี่ยงสำคัญมาก ซึ่งจะกระทบกับชาวนาไทย
“ผมไปดูตัวเลขชาวนาทำนา 1 ไร่ ใช้ปุ๋ยประมาณ 900 บาทต่อการปลูก 1 รอบ มีกำไรประมาณ 1,000 บาท ถ้าราคาปุ๋ยขึ้น 2 เท่า กำไรหายหมดเกลี้ยงเลย ซึ่งก็มี 2-3 ทางเลือก คือ ไม่ปลูก เพราะปลูกไปก็ไม่มีกำไร หรือใช้ปุ๋ยน้อยลง ก็อาจกระทบผลิตภาพ คือปริมาณของจะน้อยลง และราคาของก็จะแพงขึ้น กลายเป็นความลำบากของทุกคน เพราะว่าผู้บริโภคก็จะซื้อข้าวแพงขึ้น แต่ว่าชาวนาไม่ได้มีเงินเพิ่มขึ้น เพราะเขามีกำไรลดลง”
เศรษฐกิจไทยเจอปัญหาทั้ง “สั้น-ยาว”
ดร.พิพัฒน์กล่าวว่า มองไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งปัญหาระยะสั้นที่หากโควิดยังไม่จบ แล้วนักท่องเที่ยวไม่กลับมา แถมเงินเฟ้อสูง 3 ปัจจัยนี้จะเป็นความเสี่ยงหลัก เพราะปีนี้หากนักท่องเที่ยวมาได้ 5 ล้านคน เศรษฐกิจก็โตได้ 3.2% แต่หากนักท่องเที่ยวไม่กลับมา หรือไม่ได้เท่าปีที่แล้ว เศรษฐกิจไม่มีทางโตเกิน 3% แน่นอน อาจจะเหลือ 2% หรือ 1%
“ระยะสั้น นโยบายการเงินก็คงต้องสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไปก่อน แต่ก็ต้องมอนิเตอร์ อย่าให้แรงกดดันของเงินเฟ้อมีปัญหา เพราะถ้ามีปัญหาจะแก้ยาก ส่วนฝั่งการคลัง เนื่องจากภาระการอุดหนุนจะเยอะขึ้นมาก ๆ ก็จะต้องหารูปแบบของการอุดหนุนที่ใช้เงินให้คุ้มค่ามากกว่านี้ ส่วนการคุมราคา อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมา คือ ของขาด ผมว่าสิ่งที่ดีจริง ๆ คือ การเพิ่มการแข่งขันด้วยซ้ำ รัฐอาจจะทำตัวเพิ่มการแข่งขัน ขายของในราคาถูกลง”
ส่วนระยะยาวก็ละสายตาไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้น จะกลายมาเป็นประเด็นที่ทำให้เศรษฐกิจไทยต้องเจอปัญหามาก ๆ ในอนาคต โดยปัจจุบันเมื่อดูภาพใหญ่แล้ว ประเทศไทยยัง “ติดกับดักรายได้ปานกลาง” และไม่สามารถหาทางออกได้ว่า ตัวขับเคลื่อนใหม่ ๆ ของเศรษฐกิจไทยคืออะไร ซึ่งสัญญาณที่ค่อนข้างน่าห่วงที่สุด คือ ไทยแทบไม่มีการลงทุนใหม่ ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“ปัญหาของเมืองไทย คือ 2 ปีที่ผ่านมา เราดับไฟ เพราะเราคิดว่า บ้านเราไฟไหม้ แต่เราแทบไม่ได้หาทางให้บ้านดีขึ้น ใหญ่ขึ้น หรือไม่มีการลงทุน วันก่อนเจอนักลงทุน เขาก็ถามว่า ไทยทำอะไรบ้างในแง่ของสร้างโอกาสใหม่ ๆ เพราะตั้งแต่สหรัฐทะเลาะกับจีน ก็มีคนไต้หวันอยากย้ายฐานการผลิตจากเมืองจีน ซึ่งไทยมีโอกาส หรือฮ่องกงกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองจีน ทำไมไทยไม่เป็น hub financial center ในเอเชียแทนฮ่องกง
หรือตอนนี้รัสเซียทะเลาะกับยุโรป เราเปลี่ยนแปลงอะไรได้มั้ย หรือดูอย่างการส่งออก ปีที่แล้วเราถือว่าดีมาก แต่สัดส่วนการส่งออกที่เป็นพวกไฮเทค อิเล็กทรอนิกส์ เราน้อยกว่าเวียดนาม ขณะที่ภาคการส่งออกเกษตร ข้าว เราก็สู้เขาไม่ได้ ดังนั้น เรากำลังเจอปัญหาเรื่องความสามารถในการแข่งขัน เพราะระหว่างที่เรากำลังดับไฟอยู่ คนอื่นโตไปแล้ว” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KKP ฝากทิ้งท้าย
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"