ตลาดทุนป่วน “ต้นทุน” พุ่ง STARK เอฟเฟ็กต์ หุ้นกู้ขายไม่ออก

STARK เอฟเฟ็กต์ตลาดทุนป่วน วิกฤตความเชื่อมั่น-ธรรมาภิบาลบริษัทจดทะเบียนกระทบ “ต้นทุน” ระดมทุนภาคธุรกิจดอกเบี้ยหุ้นกู้ขยับขึ้นทุกเรตติ้ง “หุ้นกู้ไฮยีลด์” วิกฤตตลาดปิดเริ่มเจอปัญหาขายไม่ออก นักลงทุนระแวงซ้ำรอย STARK ตลท. ประกาศยกเครื่องเกณฑ์กำกับ/เข้มบริษัท Backdoor Listing

เข้าตลาดหุ้น ขณะที่วงการบี้ ก.ล.ต.งัดมาตรการลงโทษบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี ลุ้นระทึก “หุ้นกู้” กลุ่มเสี่ยงสูง Non-rated จ่อคิวเปิดขายอีกเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ที่พบว่ามีการตกแต่งบัญชีสร้างตัวเลขยอดขายปลอม ลูกหนี้ปลอม สต๊อกปลอมและทำการโยกย้ายเงินออกจากบริษัทจนทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย ผู้ถือหุ้นกู้ จนถึงกองทุนรวมและสถาบันการเงินเจ้าหนี้เกิดความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท
ล่าสุดทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า เมื่อ 21 มิ.ย. 2566 ทางดีเอสไอได้อนุมัติให้รับกรณีการตรวจพบความผิดปกติของงบการเงินของ STARK เป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยการสืบสวนเบื้องต้นมีมูลเชื่อว่ามีการกระทำผิดของกรรมการ หรือผู้บริหาร หรือบุคคลอื่นใด เกิดขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพฤติการณ์มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนและระบบเศรษฐกิจการคลังของประเทศ
วิกฤตเชื่อมั่น “ต้นทุน” กู้พุ่ง
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณี บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) สร้างความเสียหายเยอะทั้งนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน รวมถึงธนาคารเจ้าหนี้ ซึ่งเคสนี้เป็นเรื่องของการตกแต่บัญชีสร้างตัวเลขเทียม ถือเป็นความผิดที่รุนแรงมาก ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจาก กลไกการตรวจสอบ การคานอำนาจของ ผู้บริหาร/ฝ่ายตรวจสอบฝ่ายใน, คณะกรรมการ และผู้ตรวจสอบบัญชี ไม่ฟังก์ชั่นไม่ได้ทำหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพ
“กลไกของตลาดทุนทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานเรื่องความเชื่อมั่น เชื่อใจว่าข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยออกมา เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทันทีที่นักลงทุนตั้งคำถามกับตัวเลขเหล่านี้ ก็จะเป็นไปไม่ได้เลยที่นักลงทุนจะลงทุนได้ด้วยความสบายใจ แต่เคสที่เกิดขึ้นนี้ทั้งผู้บริหาร กรรมการตรวจสอบ และผู้ตรวจสอบบัญชี mistrust หมดเลยทั้ง 3 ระดับ ซึ่งอันนี้เรื่องใหญ่มาก กลไกการออกแบบเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทมีปัญหาแน่ ๆ”ดร.พิพัฒน์กล่าว
ดร.พิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมในรายการ “MONEY CHAT” ว่า จากกรณีของ STARK ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ทำให้ตลาดเกิดการระแวงไม่เชื่อมั่นข้อมูล ตัวเลขงบการเงินบริษัทจดทะเบียนที่เปิดเผยออกมา ว่าจะเป็นแบบ STARK ได้หรือไม่ เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็จะทำให้ต้นทุนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
ถ้าระบบการเงินไม่สามารถเชื่อข้อมูลที่บริษัทมีการสอบทานและเปิดเผยออกมา ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเมื่อนักวิเคราะห์ หรือบริษัทจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง ผู้จัดการกองทุน ที่อยู่วงนอกไม่สามารถเชื่อถือข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยได้ ก็จะทำให้มีการบวกเพิ่มค่าธรรมเนียมความเสี่ยงเข้าไป จะทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ไม่ว่าบริษัทจะขอกู้แบงก์ บริษัทจะระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เพราะไม่สามารถเชื่อถือข้อมูลได้ 100% ก็จะต้องตั้งคำถามตลอดเวลาก็ทำให้ต้นทุนการเงินและตลาดได้รับผลกระทบพอสมควร
เอฟเฟ็กต์ดอกเบี้ยหุ้นกู้แพง
นายสงวน จุงสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายทีม Investment and Markets Research สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลกระทบจากกรณีของ STARK ที่พบการทุจริตและมีการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้เกือบหมื่นล้านบาท
ทำให้ตอนนี้กระบวนการสกรีนของการรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้งระบบเกิดปัญหาแล้วจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้นทุกบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะต้องจ่ายต้นทุนดอกเบี้ยแพงขึ้นหมด และมองว่าค่อนข้างแฟร์ถ้าธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้จะคิดค่าบริการเพิ่ม เพราะการทำธุรกรรม due diligence มีความซับซ้อนมากขึ้น จึงต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดความเสี่ยงที่ตรวจสอบไม่ได้
โดยต้นทุนการกู้ผ่านการออกหุ้นกู้เทียบจากสิ้นไตรมาส 1 จนถึง 21 มิ.ย. 2566 พบว่าระดับเรตติ้ง AAA รุ่นอายุ 3 ปี ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.24% มาอยู่ที่ 2.74%, อายุ 5 ปี เพิ่มขึ้น 0.27% มาอยู่ที่ 3.03% และระดับเรตติ้ง A- รุ่นอายุ 3 ปี เพิ่มขึ้น 0.27% มาอยู่ที่ 3.29%, รุ่นอายุ 5 ปี เพิ่มขึ้น 0.33% มาอยู่ที่ 3.69% และระดับเรตติ้ง BBB+ รุ่นอายุ 1 ปี เพิ่มขึ้น 0.12% มาอยู่ที่ 3.57%, รุ่นอายุ 2 ปี เพิ่มขึ้น 0.13% มาอยู่ที่ 3.92%, รุ่นอายุ 3 ปี เพิ่มขึ้น 0.09% มาอยู่ที่ 4.14%
หุ้นกู้ไฮยีลด์วิกฤต “ตลาดปิด”
นายสงวนกล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์การออกหุ้นกู้ พบว่ากลุ่มระดับลงทุน (investment grade) อาจจะโดนเรื่องของเซนติเมนต์บ้าง แต่ยังไม่มีปัญหามาก แต่ที่น่ากังวลคือกลุ่มไฮยีลด์ (เครดิตเรตติ้งต่ำ ความเสี่ยงสูง และผลตอบแทนสูง) ตลาดเริ่มปิด มีผลกระทบเต็ม ๆ เพราะเห็นสัญญาณขายหุ้นกู้ไม่หมด เช่น มีบางบริษัทต้องการโรลโอเวอร์ 100% แต่ขายหุ้นกู้ใหม่ได้แค่ 50% นอกจากนี้เดิมที่หน่วยงานกำกับมีความพยายามจะจัดตั้งกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกู้เสี่ยงสูง แต่สุดท้ายจัดตั้งไม่สำเร็จแสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อถดถอย
ปัจจุบันหุ้นกู้ไฮยีลด์จัดจำหน่ายหลักโดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซึ่งตอนนี้เห็นสัญญาณ บล.บางรายเข้มงวดในการสกรีนรับประกันการจัดจำหน่ายมากขึ้น และมีอัตราส่วนในการปฏิเสธลูกค้าที่สูงขึ้นด้วย เพราะทุกบริษัทต้องตรวจสอบมากขึ้น จึงไม่อยากจะแบกรับความเสี่ยงไว้มาก คือมีการสกรีนคล้ายแบงก์มากขึ้น ส่วน บล.อีกกลุ่มที่เน้นจัดจำหน่ายหุ้นกู้เสี่ยงสูงอยู่แล้ว เพราะได้ผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมที่สูง แต่กลุ่มนี้เมื่อเม็ดเงินจากนักลงทุนชะลอตัว การขายก็ทำได้ไม่ง่ายแล้ว
ฟื้นฟู “ธรรมาภิบาล” ตลาดทุน
นายสงวนกล่าวว่า นอกจากนี้นักลงทุนก็เริ่มกลับไปให้ความสนใจกับการพิจารณารายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้มากกว่า ที่จะพิจารณางบการเงินอย่างเดียวบ้างแล้ว คือพูดง่าย ๆ กลับมาวิเคราะห์เหมือนในยุคอดีต ที่ดูแคแร็กเตอร์หรือตัวเจ้าของ ดูโปรไฟล์ประวัติบริษัท เพราะตอนนี้งบการเงินกำลังถูกตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือ ฉะนั้นเรื่องธรรมาภิบาล (governance) จึงกลับมาเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในยุคนี้
“การตรวจสอบของเราชี้ให้เห็นว่ากรณี STARK ซ้ำรอย บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ซึ่งผ่านไปแล้ว 4 ปี ทำอะไรไม่ได้เลย และเคส STARK ก็มีขนาดใหญ่กว่า มีผลกระทบกว้างไกลกว่าด้วย ตอนนี้ถ้าคิดเม็ดเงินความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ประมาณ 60,000 หมื่นล้านบาท คือจากมาร์เก็ตแคปของหุ้นที่หายไปกว่า 50,000 ล้านบาท และพอร์ตหุ้นกู้อีกเกือบ 10,000 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าวัดความเสียหายที่ไม่ใช่ตัวเลขมหาศาลกว่านั้นมาก น่าจะเป็นเคสทุจริตที่ใหญ่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของไทย” นายสงวนกล่าว
บี้ ก.ล.ต.ขึ้นบัญชีดำ Big4
นายสงวนกล่าวว่า อยากเสนอให้ผู้เสียหายฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้อง STARK ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ตรวจสอบบัญชี (auditor) ซึ่งไม่ได้มุ่งร้าย แต่จำเป็นต้องหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นกรณีศึกษา หากยกระดับขึ้นมาเป็นคดีความได้ ทุกคนจะมีการตระหนักรู้ โดยเฉพาะผู้ตรวจสอบบัญชีที่ปั้มงบการเงินที่ไม่ถูกต้องออกมา เพราะจะส่งผลตามมา ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ นักลงทุน สถาบันการเงิน เพราะต้องยึดตัวเลขจากงบการเงินดังกล่าว ถามว่าทำเพื่ออะไร ทำเพื่อให้ตลาดทุนในยุคถัดไป ๆ ไม่ซ้ำรอยขึ้นอีก
แหล่งข่าวในแวดวงตลาดทุนกล่าวว่า กรณีนี้สำนักงาน ก.ล.ต.ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเร่งด่วนและเคร่งครัดตลอดทั้งเส้นทาง นอกจากในส่วนของผู้บริหาร กรรมการบริษัท STARK แล้ว ในส่วนของผู้ตรวจสอบบัญชี ต้องไม่ใช่แค่การลงโทษ “ผู้ตรวจสอบบัญชี” แต่ต้องการมีมาตรการลงโทษไปถึง “บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี” ด้วย เพราะถือเป็นการรับรองโดยบริษัท
ซึ่งผู้สอบบัญชีของ STARK คือบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด เป็นบริษัท big4 ก็มีส่วนทำให้นักลงทุนยอมรับเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้น ก.ล.ต.ควรจะมีมาตรการลงโทษบริษัทผู้ตรวจสอบด้วย เช่น การขึ้นแบล็กลิสต์บริษัทผู้สอบบัญชี เพื่อเป็นมาตรการที่จะทำให้บริษัทมีความเคร่งครัดของกระบวนการทำงานภายในมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่าสำนักงาน ก.ล.ต.ดำเนินการอะไรกับบริษัทตรวจสอบบัญชี ทั้งที่ปัญหามีมาโดยตลอด
หุ้นกู้เพิ่มค่าฟีแลกความเสี่ยง
แหล่งข่าวผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของ STARK กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากนโยบายของบริษัทในการรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นกู้และเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จะรับเฉพาะบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีเรตติ้ง BBB+ ขึ้นไป ซึ่งตอนนั้นหุ้นกู้ STARK มีเรตติ้ง BBB+ พอดี และเป็น บจ.ใหญ่ที่ติดรายชื่ออยู่ใน SET100 และยังได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นสะท้อนนโยบายของบริษัทค่อนข้างมีการสกรีนอยู่พอสมควร
แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องทบทวนการทำงาน แม้บริษัทสกรีนผ่านแล้ว แต่คงต้องมีการคิดค่าบริการเพิ่ม ตามอันดับความน่าเชื่อถือ และความเสี่ยงอื่น ๆ เพื่อแลกกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับ STARK สร้างความวุ่นวายไม่คุ้มอย่างมากกับค่าบริการที่กำหนดไว้ ดังนั้นต่อไปอาจทำให้บริษัทจดทะเบียนที่มีเรตติ้งระหว่าง BBB+ หรือ A- โดนปรับขึ้นราคาค่าบริการเพิ่ม
กระทบเชื่อมั่นตลาดหุ้น
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและรับประกันการขายหุ้นไอพีโอ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณี STARK มีผลในเชิงจิตวิทยาต่อนักลงทุนที่ขาดความมั่นใจต่อหุ้นทั้งตลาด
รวมถึงการระดมทุนขายหุ้นไอพีโอด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะมีหุ้นตัวไหนอีกบ้างที่มีลักษณะคล้ายกับ STARK และประกอบกับโดนกดดันจากภาวะตลาดหุ้นที่ไม่ดีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง STARK ด้วย
ขณะที่เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ (บอร์ด ตลท.) มีมติเห็นชอบแนวทางปรับปรุงหลักเกณฑ์สำหรับบริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai ตามแผนกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (2566-2568) ในการเพิ่มโอกาสการระดมทุนสำหรับธุรกิจทุกขนาด และเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดทุน รวมทั้งการยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนให้เข้มข้นมากขึ้น โดยปรับปรุงคุณสมบัติบริษัทจดทะเบียนตามเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใน SET และ mai ซึ่งจะเพิ่มกำไรเพื่อรองรับบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้น และเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้น (equity)
อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการพิจารณาคุณสมบัติบริษัท backdoor listing โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะร่วมพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทเช่นเดียวกับกรณี IPO เพื่อให้บริษัทที่เข้าจดทะเบียนไม่ว่าด้วยช่องทางใดมีคุณภาพใกล้เคียงกัน
จับตาหุ้นกู้เสี่ยงสูงเปิดขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงาน ก.ล.ต.พบว่ายังมีบริษัทที่เตรียมเสนอขายหุ้นกู้จำนวนมาก ซึ่งมีทั้งบริษัทขนาดใหญ่และเล็ก โดย “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลของบริษัทที่เตรียมจะเปิดขายหุ้นกู้ไฮยีลด์ คือต่ำกว่า investment grade ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้ที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (nonrated) เรียกว่าความเสี่ยงสูง ที่มาพร้อมกับผลตอบแทนสูงที่จะเปิดขายในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ ประกอบด้วย
1.บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวศิวกรรมสำหรับอาคาร หุ้นกู้อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี วงเงินเสนอขาย 600 ล้านบาท ช่วงวันที่ 22-26 มิ.ย. 2566 (nonrated)
2.บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ วงเงินเสนอขาย 600 ล้านบาท รุ่นอายุ 1 ปี 9 เดือน จ่ายดอกเบี้ย 7% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 6 เดือน จ่ายดอกเบี้ย 7.35% ต่อปี เสนอขายช่วงวันที่ 26-28 มิ.ย. 2566 (nonrated)
3.บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ธรุกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รุ่นอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 6.90% ต่อปี วงเงินเสนอขาย 500 ล้านบาท เสนอขายช่วงวันที่ 30 มิ.ย.-4 ก.ค. 2566 (nonrated)
4.บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว รุ่นอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 7% ต่อปี วงเงิน 500 ล้านบาท เสนอขายวันที่ 3-5 ก.ค. 2566 (nonrated)
5.บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) ธรุกิจพัฒนาอสังริมทรัพย์ รุ่นอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 7.30% ต่อปี วงเงิน 440 ล้านบาท เสนอขายวันที่ 10-12 ก.ค. 2566 (nonrated)
6.บริษัท เอสจีเอฟ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและจำนำทะเบียน รุ่นอายุ 1 ปี 10 เดือน 16 วัน จ่ายดอกเบี้ย 6.80% ต่อปี วงเงิน 500 ล้านบาท เสนอขายช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. 2566 (nonrated)
7.บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำแบบขายตรง รุ่นอายุ 2 ปี 6 เดือน จ่ายดอกเบี้ย 6.60% ต่อปี วงเงิน 500 ล้านบาท เสนอขายช่วงวันที่ 24-26 ก.ค. 2566 (nonrated)
8.บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง รุ่นอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี เสนอขายช่วงวันที่ 24-26 ก.ค. 2566 (nonrated)
9.บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รุ่นอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 6.70% ต่อปี วงเงินเสนอขาย 700 ล้านบาท เสนอขายช่วงวันที่ 26-28 มิ.ย. 2566 ทริสเรตติ้งจัดอันดับเครดิต BB+
10.บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจโรงแรมและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 3 ชุด วงเงินเสนอขายรวม 1,300 ล้านบาท รุ่นอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 7.40% ต่อปี และรุ่นอายุ 1 ปี 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ย 6.90% ต่อปี เสนอขายช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. 2566 ทริสเรตติ้งจัดอันดับเครดิต BB-
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"