สำรวจความต้องการทองคำของผู้บริโภคไทยโตแรง9.5%พุ่งด้านลงทุนและเก็งกำไร

สำรวจความต้องการทองคำ พบผู้บริโภคไทยช้อปแรงสุดในอาเซียน ต้นปี 2023 เพิ่ม 9.5% จากปีก่อน คาด 5 ปีข้างหน้าหน้าพุ่งสวนทางฝั่งธนาคารกลาง พุ่งด้านลงทุนและเก็งกำไร
YLG สรุปสถานการณ์ความต้องการทองคำล่าสุด

จากการเปิดเผยรายงานภาพรวมตลาดทองคำในปี 2023 ของสภาทองคำโลก (World Gold Council : WGC) พบว่า ภาพรวมความต้องการทองคำ (Gold Demand) ทั่วโลก ซึ่งไม่รวมการซื้อขายนอกตลาด (OTC: Over-the-counter) ในปี 2023 อยู่ที่ระดับ 4,448.4 ตัน โดยปรับตัวลดลง 5.3% จากปี 2022 ที่ระดับ 4,699.0 ตัน แต่หากรวมการซื้อขายนอกตลาด (OTC) เข้าไปด้วย ความต้องการทองคำทั่วโลกในปี 2023 จะอยู่ในระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูล ที่ระดับ 4,898.8 ตัน และนับเป็นการปรับตัวสูงขึ้น 3.1% จากปี 2022 ที่ระดับ 4,751.9 ตัน
สำหรับความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้ นอกจากได้ปัจจัยบวกมาจากธนาคารกลางสหรัฐที่ใกล้เข้าสู่วงจรอัตราดอกเบี้ยขาลงแล้ว อีกส่วนหนึ่งมาจากผลต่อเนื่องจากความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งนำไปสู่กระแส “De-dollarization” หรือการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐที่ใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือใช้ในการค้าระหว่างประเทศ
ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกหันมาลดสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ และเพิ่มสัดส่วนในการถือทองคำมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2022 และ 2023 ที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าซื้อทองคำที่ระดับ 1,081.9 ตัน และ 1,037.4 ตัน ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการซื้อปกติที่ราว 400-600 ตันต่อปี มาตลอดนับสิบปี
ทั้งนี้หากแบ่งเป็นความต้องการในส่วนทองคำแท่งและเหรียญทองคำ (Gold Bar and Coin) ทั่วโลก ปรากฏว่ามีความต้องการที่ลดลง 2.7% สู่ระดับ 1,189.5 ตันในปี 2023 จากระดับ 1,222.6 ตันในปี 2022 ขณะที่ความต้องการในเครื่องประดับ (Jewellery) ทั่วโลกนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2% สู่ระดับ 2,092.6 ตันในปี 2023 จากระดับ 2,088.9 ตันในปี 2022
ขณะที่ในประเทศไทยมีความต้องการซื้อทองคำผู้บริโภค (Consumer gold demand) ในปี 2023 ซึ่งเติบโตในระดับสูงที่สุดในอาเซียน โดยปรับเพิ่มขึ้นถึง 9.5% สู่ระดับ 42.1 ตัน จากระดับ 38.4 ตันในปี 2022 โดยการเติบโตนี้เป็นผลมาจากความต้องการทองคำแท่งและเรียญทองคำ (Gold Bar and Coin) ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 13.3% สู่ระดับ 32.9 ตัน จากระดับ 29.0 ตันในปี 2022 ซึ่งช่วยชดเชยความต้องการในเครื่องประดับ (Jewellery) ที่ลดลง 2.2% สู่ระดับ 9.2 ตันในปี 2023 จากระดับ 9.4 ตันในปี 2022
อย่างไรก็ดี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เคยเข้าซื้อทองคำราว 90.20 ตัน ในปี 2021 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ (International Reserves) มากที่สุดในบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก ขณะที่ในปี 2022 และ 2023 ธปท. ไม่ได้มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจากระดับดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ ในปี 2023 แรงซื้อทองคำของประเทศไทย จึงมาจากความต้องการซื้อของผู้บริโภคในประเทศเป็นหลัก
อนึ่ง ความต้องการซื้อทองคำผู้บริโภค ประกอบด้วย ปริมาณการบริโภคเครื่องประดับ (Jewelry Consumption) และการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำทั้งหมดในประเทศ กระนั้น หากพิจารณาเฉพาะความต้องการทองคำในส่วนของเครื่องประดับ พบว่า แม้ในช่วงไตรมาส 4 ความต้องการเครื่องประดับทองคำในไทยปรับตัวขึ้น สู่ระดับ 3.0 ตัน จากระดับ 2.5 ตัน ในไตรมาส 3
สำหรับแรงซื้อทองคำในประเทศไทยนั้น ถูกขับเคลื่อนด้วยวัตถุประสงค์ของการลงทุนหรือการเก็งกำไร ซึ่งหากพิจารณาเพิ่มเติมในช่วงระหว่างปี 2013 – 2022 พบข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ปริมาณการบริโภคทองคำของไทยโดยเฉลี่ย อยู่ที่ 63.0 ตัน นับว่าสูงสุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลก ขณะที่ในภูมิภาคเอเชีย ระดับการบริโภคดังกล่าวนับว่าอยู่ในอันดับที่ 3 เป็นรองเพียงจีนและอินเดีย โดยการลงทุนในทองคำแท่ง ถูกคาดว่าเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก
อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่าการลงทุนในระยะหลังของไทย โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาการลงทุนในทองคำแท่งด้วยความต้องการถือ เพื่อเป็นสินทรัพย์กระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน หรือด้วยวัตถุประสงค์ในการลงทุนระยะยาวอาจลดลง สะท้อนผ่านข้อมูลการส่งออก-นำเข้าทองคำในประเทศ ที่การนำเข้าทองคำกายภาพ (Physical Gold) ในปี 2023 อยู่ในระดับ 128.88 ตัน ปรับตัวลง 36.37% จากปีก่อนหน้า
ด้วยการนำเข้าทองคำที่ลดลงดังกล่าว คาดว่า มีส่วนมาจากการที่นักลงทุนหันมาเก็งกำไรผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อ้างอิงทองคำ หรือลงทุนใน Paper Gold ซึ่งมีความสะดวกมากกว่า และมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการลงทุนในทองคำแท่งแบบกายภาพ นอกจากนั้น นายเซาไก ฟาน ผู้อำนวยการส่วนวิจัยด้านภูมิภาคเอเชียและธนาคารกลางทั่วโลกของ WGC ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ด้วยความนิยมในการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีการซื้อขายทองคำในระยะสั้นมากขึ้น อันเป็นผลให้การลงทุนแบบถือในระยะยาวนั้นมีสัดส่วนลดลง
ในส่วนการซื้อทองคำของประเทศไทยในอีก 5 ปีข้างหน้านั้น YLG มองว่าปี 1-2 ปีที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ (International Reserves) แต่ในระยะข้างหน้า ธปท. อาจมีการเพิ่มสัดส่วนทองคำฯ เพื่อรองรับความความไม่แน่นอนของประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก อันมีส่วนทำให้เกิดความผันผวนของสกุลเงินหลักที่เพิ่มมากขึ้น
กระนั้นในช่วงต้นปี 2023 ทางสภาทองคำโลก (World Gold Council : WGC) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นต่อประเด็นแนวโน้มสัดส่วนทองคำและเงินดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศ จากธนาคารกลางราว 57 แห่งทั่วโลก ซึ่งผลการสำรวจได้บ่งชี้ว่า ความต้องการซื้อทองคำของเหล่าธนาคารกลางยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อไปอีกในอนาคต นับเป็นสัญญาณเชิงบวกของราคาทองคำ
เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อแนวโน้มสัดส่วนการถือครองทองคำในอนาคตของธนาคารกลางทั่วโลกนั้น พบว่า ราว 71% มีความเห็นว่าการถือครองสำรองทองคำในอีก 12 เดือนข้างหน้า จะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราว 24% ให้ความเห็นว่า ธนาคารกลางของตนนั้นมีแผนเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำ สอดคล้องกับการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ที่เพิ่มขึ้นราว 26.59% เมื่อเทียบจากปี 2022
ขณะเดียวกัน ในแบบสอบถามได้มีการบรรจุคำถามที่สำคัญ นั่นคือ สัดส่วนการถือครองทองคำในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยผลการสำรวจระบุว่า 62% ของธนาคารกลาง ลงความเห็นว่า สัดส่วนการถือครองทองคำในอีก 5 ปีข้างหน้านั้น จะปรับตัวขึ้นจากระดับเฉลี่ยที่ 15% ในปัจจุบัน ซึ่งราว 59% ให้ความเห็นว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 16-25% ขณะที่อีก 3% ให้ความเห็นว่า จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับเหนือ 25%
ปัจจุบัน แม้ธปท. ถือครองทองคำสำรอง 244.16 ตัน สูงสุดในบรรดาธนาคารกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เนื่องด้วยระดับทุนสำรองฯ ที่สูงราว 2.25 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ทองคำคิดเป็นสัดส่วนเพียง 7.26% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสัดส่วนทองคำฯ ของธนาคารกลาง 57 แห่งทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจชั้นนำของโลกที่เปราะบางต่อการเกิดวิกฤติ อันมีส่วนฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และความเป็นไปได้ต่อการปะทุขึ้นของการสู้รบระหว่างประเทศ รวมไปถึงความพยายามลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์ หรือ De-dollarization ทั้งหมดนี้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยชี้นำให้ธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งรวมถึงไทย เข้าถือครองทองคำในสัดส่วนต่อทุนสำรองฯ ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มเสถียรภาพด้านต่างประเทศ หรืออัตราแลกเปลี่ยน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนและผู้บริโภคในประเทศ อาจมีการตอบสนองต่อความเสี่ยงจากความความไม่แน่นอนของประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลกด้วยเช่นกัน ทำให้ความต้องการซื้อทองคำผู้บริโภค (Consumer gold demand) นั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับคาดการณ์ราคาทองคำภายใน 5 ปี ข้างหน้า ที่อาจปรับตัวขึ้นแตะบริเวณ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทั้งนี้แนวโน้มความต้องการซื้อทองคำของไทยในระยะ 5 ปี ต่อจากนี้ คาดว่า ความต้องการซื้อทองคำผู้บริโภค จะมีอัตราการเร่งตัวขึ้นสูงกว่าทางธนาคารกลาง หรือธปท. แต่ทางธปท. อาจเป็นผู้เพิ่มปริมาณความต้องการซื้อทองคำของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ หากมีการปรับเพิ่มสัดส่วนของการถือครองทองคำต่อทุนสำรองฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว
แต่หากพิจารณาเฉพาะความต้องการซื้อทองคำผู้บริโภค YLG ประเมินว่า แนวโน้มการซื้อทองคำในรูปแบบเครื่องประดับอาจปรับตัวลดลง แต่ภาพรวมความต้องการทองคำผู้บริโภค จะสูงขึ้นจากการถูกชดเชยด้วยความต้องการซื้อทองคำเพื่อการลงทุน อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุนให้ติดตามความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจและการเงินโลก เพื่อไม่ให้พลาดแนวโน้มการลงทุนที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
Source: Posttoday

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"