ตลาดหุ้นจีนเติบโตกว่าใครเพื่อน เพราะรัฐอยู่เบื้องหลัง

ภาพรวมและบรรยากาศการของลงทุนในตลาดหุ้นของจีนในช่วงนับตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนและเต็มไปด้วยความท้าทาย ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ เริ่มต้นจากนโยบายการควบคุมการระบาดของโควิด-19

อย่างนโยบาย Zero Covid ที่สุดแสนจะเข้มงวดของรัฐบาลจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศเป็นอย่างมาก ในตอนนั้นจีนปิดประเทศห้ามคนในบินออก ห้ามคนนอกเข้าประเทศ ทุกอย่างถูกแช่แข็ง เศรษฐกิจเติบโตเป็นศูนย์ บรรดาบริษัทขนาดใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจและรายได้ที่ลดลง แน่นอนว่ามันส่งผลต่อ Sentiment ของตลาดหุ้นอย่างแน่นอน
คาดความหวังของนักลงทุนที่อยากจะเห็นจีนเติบโตทุก ๆ ปีถูกทำลายด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจปีแล้วปีเล่า ซึ่งมีหรือที่จีนจะยอมให้ภาพลักษณ์ตลาดหุ้นของประเทศพังเละเทะ ดังนั้น รัฐบาลจีนจึงได้ออกมาตรการ “พยุงตลาดหุ้น” ขึ้นมา ซึ่งผู้สันทัดกรณีหลายฝ่ายกังวลว่านี่อาจเป็นเพียงภาพลวงตาที่อยากจะดึงเม็ดเงินของต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศจีนหรือไม่ ซึ่งเมื่อไร้แรงอุดหนุนจากภาครัฐ ภาพที่แท้จริงอาจปรากฏขึ้น ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนจะต้องสูญเงินลงทุนหรือไม่อย่างไร
แม้จะเริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศหลังผ่านศึกหนักกับโควิดมาแล้ว แต่ปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรมอย่างปัญหา China Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของจีนไม่สามารถหาเงินกู้ได้ทันเส้นตายหลายครั้ง สุดท้ายล้มละลาย ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อทั้งภาคอสังหาฯ และภาคการเงินของจีนเป็นอย่างมาก ยังไม่รวมปัญหาที่จีน “คุมกำเนิด” Ant Financial หนึ่งในบริษัทในเครือ Alibaba Group ของ แจ็ค หม่า ที่หวังให้การเงินของประเทศก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนยังคงดำเนินต่อไป โดยมีการกีดกันทางการค้าและข้อจำกัดต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อบรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ความกังวลเรื่องการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์และการพึ่งพาซัปพลายเชนจากต่างประเทศเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุน ทั้งหมดที่เอ่ยถึงนี้แน่นอนว่าด้วยธรรมชาติของจีนที่เป็นคอมมิวนิสต์ทำให้การวางกฎกติกาค่อนข้างเข้มงวดและเอาจริง ซึ่งพอภาพของเศรษฐกิจจริงเป็นแบบนี้ ภาพของตลาดหุ้นเลยมีความกังวล นักลงทุนส่วนใหญ่ใครหรือจะกล้าขนเงินเข้าไปนอนนิ่ง ๆ ไว้กับตลาดหุ้นที่วันนี้รัฐบาลพูดไว้อย่าง อีกวันอาจจะเปลี่ยนไปอีกอย่างก็เป็นไปได้ จึงส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้นของจีน
อย่างไรก็ตาม ฉันใดก็ฉันนั้น มีลงแล้วก็ต้องมีขึ้น ตลาดหุ้นจีนไม่ได้พบเจอแต่ความท้าทาย ในช่วงกลางปีบรรดาบริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดหลายรายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จุดประกายความหวังให้แก่นักลงทุนที่คาดหวังในศักยภาพการเติบโตของภาคส่วนเหล่านี้ในระยะยาว การเปิดเสรีการค้าและการลงทุนระหว่างจีนกับประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ก็ช่วยหนุนเสถียรภาพของตลาดบ้างในช่วงปลายปี
แต่มีประเด็นหนึ่งที่สำนักข่าวต่างประเทศให้ความสนใจและพูดถึง ก็คือ ในเมื่อประเทศจีนเผชิญกับปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน แต่ไฉนดัชนีตลาดหุ้นจีนไม่ได้ตกต่ำลงเลย หนำซ้ำยังทำทีท่าว่าจะฟื้นตัวกลับมาด้วยซ้ำ ผู้เชี่ยวชาญให้ความคิดเห็นเรื่องการ “ช่วยพยุงตลาดหุ้น” ของรัฐบาลจีนว่าพวกเขาตั้งใจมากกับการที่จะต้องทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่หันหน้าหนีพญามังกร ว่าแต่พวกเขาทำอย่างไร วันนี้เราจะพาผู้อ่านไปดูแท็คติกที่จีนใช้เพื่อทำให้ตลาดหุ้นจีนยังสดใสแม้ในวันที่ Real Sector หม่นหมอง
ทำไมรัฐบาลจีนต้องเข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้น
รัฐบาลจีนค่อนข้างจะมีความมุ่งมั่นในเรื่องการทำให้เศรษฐกิจเติบโตในทุก ๆ ปี เพราะพวกเขาไม่อยากจะพ่ายแพ้ต่อมหาอำนาจอย่างอเมริกา และต้องการขยายขนาดเศรษฐกิจให้ทัดเทียมและแซงหน้าอเมริกาให้ได้ ซึ่งภาพสะท้อนของเศรษฐกิจของประเทศนั้นออกมาทางตลาดหุ้น เราจะเห็นว่าตลาดหุ้นจีนดูไม่ดีเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อตลาดดูไม่ดีก็ไม่อยากมีใครมาลงทุน มหกรรมช่วยอุ้มชูจึงเกิดขึ้น และเหตุผลที่ทำให้จีนต้องพยุงตลาดหุ้นก็มีมากกว่านั้น อย่างเช่น
1. รักษาความเชื่อมั่นของตลาด รัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพของความเชื่อมั่นของตลาดโดยการแทรกแซงตลาดเพื่อป้องกันการลดลงอย่างรวดเร็วและรักษาระดับราคาหุ้นไว้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนและลดความเสี่ยงของการล่มสลายของตลาด
2. สนับสนุนนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนรายย่อยซึ่งประกอบด้วยอย่างน้อย 80% ของตลาด ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการตกต่ำของตลาด การแทรกแซงของรัฐบาลช่วยบรรเทาความสูญเสียทางการเงินและรักษาความไว้วางใจในตลาด
3. รักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นที่มั่นคงถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลเชื่อว่าตลาดหุ้นที่แข็งแกร่งสามารถช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจได้โดยการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจและสนับสนุนระบบการเงินโดยรวม
4. เพิ่มจุดยืนระหว่างประเทศ จุดยืนระหว่างประเทศของจีนมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับผลการดำเนินงานของตลาดหุ้น ตลาดที่มั่นคงและกำลังเติบโตสามารถช่วยเพิ่มชื่อเสียงของประเทศในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
5. ลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ รัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโดยการกระตุ้นตลาดหุ้น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบของความผันผวนของตลาดต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง และป้องกันการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น
6. สนับสนุนรัฐวิสาหกิจ การแทรกแซงของรัฐบาลในตลาดหุ้นยังสนับสนุนรัฐวิสาหกิจ (SOE) ด้วยการจัดหาแหล่งเงินทุนที่มั่นคงและช่วยรักษาส่วนแบ่งการตลาด
7.กระตุ้นการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพจริง รัฐบาลเชื่อว่าตลาดหุ้นที่แข็งแกร่งสามารถช่วยขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้โดยการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจและสนับสนุนระบบการเงินโดยรวม
เหตุผลเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาตลาดหุ้นให้มั่นคงในประเทศจีน ซึ่งถูกมองว่ามีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและจุดยืนระดับนานาชาติ
มาตรการอะไรบ้างที่รัฐบาลจีนเอามาใช้เพื่อพยุง
The Economist บอกว่าส่วนหนึ่งที่หุ้นจีนวิ่งแรงมาจากการซื้อหุ้นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์โดยในเนื้อข่าวใช้คำว่า “National Team”“ทีมชาติ” ซึ่งเป็นคำเปรียบเปรยถึงเป็นกลุ่มสถาบันของรัฐที่ให้การช่วยเหลือตลาดทุนของประเทศเมื่อตลาดกำลังขาดความเชื่อมั่นและสั่นคลอน เรามาดูกันว่าจีนใช้นโยบายอะไรบ้างเพื่อทำให้ตลาดหุ้นดูดี
1. ให้องค์กรทีมชาติเข้าแทรกแซงตลาดหุ้น รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่รัฐเป็นเจ้าของเข้าแทรกแซงตลาดหุ้นคำว่า “ทีมชาติ” ในที่นี้หมายถึงกลุ่มสถาบันของรัฐที่เข้ามาแทรกแซงตลาดเพื่อรักษาเสถียรภาพในช่วงเวลาที่เกิดความวุ่นวาย
1.1 รัฐวิสาหกิจ (SOEs) เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของและควบคุม พวกเขามีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจและมักจะเกี่ยวข้องกับภาคส่วนเชิงกลยุทธ์ เช่น พลังงาน การเงิน และโครงสร้างพื้นฐาน
1.2. สถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ สถาบันต่าง ๆ เช่น China Securities Finance Corp. และ Central Huijin Investment Ltd. ซึ่งมีหน้าที่จัดการและลงทุนในกองทุนของรัฐในตลาดทุน
1.3 กองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เป็นกองทุนที่รัฐบาลจัดการเพื่อสนับสนุนตลาดหุ้น มักใช้เพื่อซื้อหุ้นและทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ
1.4 บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ บริษัทเหล่านี้จัดการและลงทุนสินทรัพย์ของรัฐ รวมถึงสินทรัพย์ในตลาดหุ้น เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพของตลาด
2. การลดต้นทุนการซื้อขาย รัฐบาลจีนได้มีการสั่งการให้หน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์เสนอให้ลดต้นทุนการซื้อขายเพื่อทำให้ตลาดน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุน (เพิ่ม Liquidity)
3. สนับสนุนการซื้อคืนหุ้น รัฐบาลสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนเข้าซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองคืน ซึ่งจะช่วยเพิ่มราคาหุ้นได้
4. ยุติความเฟื่องฟูของการเสนอขายหุ้น IPO รัฐบาลจีนหันมาควบคุมไม่ให้บริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจ “อะไรก็ได้” เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะว่า เมื่อธุรกิจที่ไม่มีศักยภาพในการเติบโตเข้ามาจดทะเบียนในตลาดทุน ทำให้เมื่อถึงเวลาหนึ่งหุ้นจะหยุดโตเนื่องจากอย่างที่ทราบว่า ราคาหุ้นวิ่งตามกำไรของบริษัท เมื่อบริษัทไม่ทำกำไร ราคาหุ้นก็ตก ส่งผลให้นักลงทุนไม่อยากจะเข้ามาลงทุน ด้วยเหตุนี้เองรัฐบาลจีนจึงใช้มาตรการ “รัฐเลือก” บริษัทที่รัฐมีส่วนความเป็นเจ้าของมาลิสต์ในตลาด เพราะรัฐมองว่าอะไรที่รัฐเลือกย่อมดีและที่สำคัญรัฐมีเงินที่จะดันธุรกิจให้ไปต่อได้ไม่ล้มละลาย จากแนวคิดนี้รัฐบาลจีนเชื่อว่าเมื่อบริษัทมีคุณภาพเข้าจดทะเบียนเป็นหุ้นที่มีคุณภาพ กำไรเติบโต ราคาก็วิ่ง และทำให้นักลงทุนอยู่กับตลาดเพราะเชื่อมั่นในหุ้น
5. ระดมเงินมาลงทุน รัฐบาลจีนมีแผนที่จะรักษาระดับเงินลงทุนจากต่างประเทศให้อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านล้านหยวน (278 พันล้านดอลลาร์) จากบัญชีนอกประเทศของรัฐวิสาหกิจ และจัดสรรเงินทุนในประเทศจำนวน 300 พันล้านหยวนเพื่อลงทุนในหุ้นในประเทศผ่านสถาบันการเงินของรัฐ
6. การสนับสนุนด้านกฎระเบียบ คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (The China Securities Regulatory Commission : CSRC) ได้ออกแถลงการณ์ให้คำมั่นที่จะฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยการเพิ่มคุณภาพบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กระตุ้นให้มีการซื้อหุ้นคืนมากขึ้น และชะลอการเสนอขายหุ้นใหม่
7. การลดอากรแสตมป์ ในประเทศจีนหากคุณต้องการซื้อหุ้น คุณจะต้องเสียค่าอากรแสตมป์ในการทำธุรกรรมหลักทรัพย์ด้วย โดยอากรแสตมป์คือภาษีที่เรียกเก็บจากการซื้อและการขายหลักทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร และเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ โดยทั่วไปอากรจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าธุรกรรมและจะชำระโดยผู้ซื้อหรือผู้ขาย ขึ้นอยู่กับเขตอำนาจศาลและหลักทรัพย์เฉพาะที่มีการซื้อขาย ดังนั้น ในยุคพยุงตลาดหุ้นรัฐบาลจีนได้มีคำสั่งให้ลดค่าอากรแสตมป์ในการซื้อขายหุ้นลงครึ่งหนึ่งเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2023 ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นตลาดหุ้นที่กำลังซบเซา
8. การส่งเสริมการลงทุนระยะยาว: CSRC ได้สนับสนุนให้นักลงทุนระยะกลางและระยะยาว เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐ และกองทุนบริหารความมั่งคั่ง เพิ่มการลงทุนในตราสารทุนอันเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยพยุงราคาหลักทรัพย์
9. จำกัดการให้ยืมหลักทรัพย์: CSRC มีการเข้มงวดกับธุรกิจบริการให้ยืมหลักทรัพย์และเข้มงวดการตรวจสอบธุรกรรมอาร์บีทาร์ตที่ไม่เหมาะสม
10. ตรวจสอบการซื้อขายเชิงปริมาณ* ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น: หน่วยงานกำกับดูแลเริ่มตรวจสอบกองทุนเฮดจ์ฟันด์และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายเชิงปริมาณในเดือนกันยายน 2023 ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง
*การซื้อขายเชิงปริมาณ (Quantitative trading) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Quant trading เป็นวิธีปฏิบัติทางการเงินที่ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมคอมพิวเตอร์และแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อค้นหาและใช้ประโยชน์จากโอกาสในการซื้อขาย แนวทางนี้ครอบคลุมทั้งการระบุแนวโน้มการทำกำไรและการวิจัยข้อมูลในอดีตเพื่อค้นหาผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น
11.ส่งเสริมภาพลักษณ์บริษัทจดทะเบียน: บริษัทจดทะเบียนหลายร้อยแห่งประกาศต่อสาธารณะว่าพวกเขาจะปรับปรุงคุณภาพองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพ และเน้นย้ำถึงผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นมากขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตลาด
พยุงแล้วดีขึ้นไหม สิ้นสุดเมื่อไหร่
ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดในโลก โดยดัชนี Shanghai Shenzhen CSI 300 ลดลงประมาณ 20% นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2023 การตกต่ำของตลาดหุ้นนี้ส่วนหนึ่งมาจากความคาดหวังต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวัง แต่หลังจากรัฐบาลจีนประกาศว่าจะกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนและพยุงตลาดหุ้นโดยใช้มาตรการต่าง ๆ ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในหัวข้อที่แล้ว แล้วผลลัพธ์ในระยะสั้นดูเหมือนจะช่วยให้ตลาดหุ้นตื่นฟื้นตัวกลับมาได้ดีโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเพิ่มขึ้น 13% จากระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ซึ่งช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนรายย่อยและรัฐบาล
เสถียรภาพตลาดดีขึ้น มาตรการดังกล่าวช่วยสร้างเสถียรภาพของตลาด ลดความผันผวนและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับตลาดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น การแทรกแซงของรัฐบาลและการสนับสนุนด้านกฎระเบียบช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าสู่ตลาดมากขึ้น และเพิ่มปริมาณการซื้อขาย
ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีนักลงทุนเข้าสู่ตลาดมากขึ้นและกิจกรรมการซื้อขายก็เพิ่มขึ้น
สภาพคล่องของตลาดดีขึ้น การแทรกแซงของรัฐบาลและการสนับสนุนด้านกฎระเบียบช่วยปรับปรุงสภาพคล่องของตลาด ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อและขายหุ้นได้ง่ายขึ้น
ความผันผวนของตลาดลดลง มาตรการเหล่านี้มีส่วนช่วยความผันผวนของตลาดลดลงเพราะการแทรกแซงของรัฐบาลและการสนับสนุนด้านกฎระเบียบทำให้เกิดความรู้สึกมั่นคงและคาดการณ์ได้ต่อตลาด
ผลกระทบระยะยาว แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยบรรเทาผลกระทบในระยะสั้น แต่ยังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของตลาดและการเติบโตของบริษัทที่มีนวัตกรรม
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์เศรษฐกิจโลกถือว่าค่อนข้างไม่เป็นใจต่อตลาดหุ้นไม่ว่าจะที่ใดในโลก ไล่เรียงจากโควิด มาสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นชนวนให้เกิดวิกฤตพลังงาน ลามมาจนถึงภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นในหลายประเทศประสบปัญหาการร่วงลงอย่างรุนแรง นักลงทุนทั่วโลกต่างวิตกกังวลต่อความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้น
แม้แต่ประเทศที่ถือว่ามีทั้งเงินและทรัพยากรอย่างตลาดหุ้นจีน ก็ไม่รอดพ้นจากสภาวะดังกล่าว ร่วงหนักลากยาวมาตั้งแต่ Zero Covid อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนก็ไม่นิ่งนอนใจ และดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อพยุงตลาดหุ้นไม่ให้ร่วงลงมากจนเกินไป
แม้ว่าการดำเนินมาตรการเหล่านั้นจะส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดและสามารถทรงตัวได้ดีกว่าตลาดอื่น ๆ บ้างก็ตาม แต่ก็ยังมีแรงกดดันมาจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามการค้ากับสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอยู่ดี
ดังนั้น แม้รัฐบาลจีนจะพยายามอย่างเต็มที่ในการพยุงตลาดหุ้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรงนัก แต่ในระยะสั้นก็ยากที่จะกลับมาสดใสเหมือนก่อนหน้านี้ ดังนั้น ก็พูดได้ว่าตลาดหุ้นของจีนอาจจะต้องยังรอรอคอยสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งต้องมาจากปัจจัยพื้นฐาน ต่อไป

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"