Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดของโลก กลายเป็นศูนย์กลางความร้อนแรงอีกครั้ง หลังจาก S&P Global Ratings ประกาศปรับลดคะแนนความสามารถในการตรึงมูลค่า 1 ดอลลาร์ของ USDt ลงสู่ระดับ “Weak” ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดบนสเกลการประเมินของสถาบัน
โดยให้เหตุผลหลักว่าโครงสร้างสำรองของ Tether ยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการถือครอง Bitcoin และทองคำ เป็นส่วนหนึ่งของสำรอง
การปรับลดเรตติ้งดังกล่าวสร้างกระแส FUD (Fear, Uncertainty, Doubt) ทันทีบนโซเชียล ทว่าฝั่ง Tether โดย CEO Paolo Ardoino ไม่ได้นิ่งเฉย และออกมาตอบโต้แบบจัดเต็ม พร้อมโชว์ข้อมูลสำรอง–ทุน ว่าการประเมินของ S&P “ไม่ครอบคลุมข้อเท็จจริงทั้งหมด”
Tether เผยตัวเลขงบดุล Q3/2025 : สินทรัพย์ 2.15 แสนล้านดอลลาร์–ทุนส่วนเกินมหาศาล
Ardoino อ้างอิงรายงาน Attestation ไตรมาส 3 ปี 2025 พร้อมเปิดตัวเลขว่า ณ สิ้นไตรมาส กลุ่มบริษัทมี
-
สินทรัพย์รวม (Total Assets): ราว 215,000 ล้านดอลลาร์
-
หนี้สินจาก Stablecoin: ราว 184,500 ล้านดอลลาร์
ซึ่งแปลว่า Tether มี ส่วนเกินสำรอง (Excess Equity) จำนวนมาก โดยแยกได้เป็น
-
ทุนส่วนเกินของ Stablecoin: ประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์
-
กำไรสะสม (Retained Earnings): ราว 23,000 ล้านดอลลาร์
Ardoino ระบุว่า S&P “ไม่ได้นำ Group Equity ทั้งหมดเข้ามาในโมเดลประเมิน” และเพิกเฉยต่อ
-
รายได้ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่าราว 500 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ซึ่งเป็นรายรับหลักที่เพิ่ม Cushion ให้กับ USDt อย่างมีนัยสำคัญ
นักวิเคราะห์แบ่งเป็นสองฝั่ง: ทอง–BTC เป็นเกราะป้องกัน หรือเป็นจุดเสี่ยง?
ประเด็นการถือครองทองคำและ Bitcoin เป็นส่วนสำรอง ทำให้วงการนักวิเคราะห์แตกออกเป็นหลายค่าย
ฝั่งกังวล – Arthur Hayes
Arthur Hayes อดีต CEO ของ BitMEX มองว่า Tether ต้องการชดเชยรายได้ที่จะลดลงเมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย โดยหันไปเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างทองคำและ Bitcoin
เขาระบุว่า
-
หาก ทอง–BTC ขึ้น ก็ช่วยเพิ่มความมั่งคั่งให้ Tether
-
แต่หากเกิด การปรับฐานรุนแรง 30% อาจทำให้ทุนของ Tetherถูกลบหายไปจำนวนมาก และ กระทบเสถียรภาพของ USDt
ฝั่งเชื่อมั่น – Joseph Ayoub
ในทางกลับกัน Joseph Ayoub อดีตหัวหน้านักวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัลของ Citi ซึ่งเคยศึกษาบริษัท “หลายร้อยชั่วโมง” ยืนยันว่า:
-
Tether มี สินทรัพย์ส่วนเกินมากกว่าที่เปิดเผยต่อสาธารณะจริง
-
โมเดลธุรกิจ Stablecoin ทำกำไรสูงจากดอกเบี้ยสินทรัพย์คลังเงิน
-
เมื่อเทียบกับระบบธนาคารแบบ Fractional Reserve
→ Tether มี เงินสด–สินทรัพย์คุณภาพสูงรองรับ หนาแน่นกว่า
Ayoub จึงมองว่าการใช้โมเดล “ทอง–BTC ร่วง 30% = Tether ล้ม” เป็นสมมติฐานที่ “หยาบเกินไป” และไม่สะท้อนงบดุลจริงของบริษัท
USDt ยังเป็นหัวใจของสภาพคล่องทั้งระบบคริปโต
แม้ความเห็นจะหลากหลาย แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับตรงกันคือ USDt คือเสาหลักสภาพคล่องของตลาดคริปโต ด้วยบทบาทบน
-
ตลาด Spot
-
ตลาดอนุพันธ์
-
CEX, DEX
-
โปรโตคอล DeFi
-
ระบบชำระเงินข้ามประเทศจำนวนมาก
ดังนั้นการที่ S&P ให้เรตติ้ง “Weak” จึงเป็นสัญญาณที่ผู้เล่นในตลาดต้องจับตา เพราะหากผู้ถือเหรียญรายใหญ่เปลี่ยนพฤติกรรม ก็อาจส่งผลต่อสภาพคล่องทั้งระบบได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังไม่เห็นแรงขาย USDt อย่างมีนัยสำคัญ และราคา USDt ยังตรึงใกล้ 1 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนว่า
-
นักลงทุนส่วนหนึ่งยัง เชื่อมั่นในตัวเลขฝั่ง Tether
-
หรือยังไม่เห็น Stablecoin อื่นที่สามารถเข้ามาแทน USDt ได้ในทันที
Cr.cointelegraph
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you























