ตลอดวัฏจักรตลาดคริปโตที่ผ่านมา ราคา Bitcoin (BTC) มักถูกอธิบายผ่าน “Narratives” หรือเรื่องเล่า ไม่ว่าจะเป็นการเมืองสหรัฐฯ กฎระเบียบ การยอมรับจากสถาบัน หรือความหวังต่อรอบขาขึ้นใหม่ แต่เมื่อพิจารณาข้อมูลเชิงลึกตลอดปี 2024–2025 จะพบว่า ปัจจัยที่กำหนดทิศทางราคาที่
“อยู่ได้นาน” ไม่ใช่พาดหัวข่าว หากเป็น สภาพคล่อง (Liquidity) และ กระแสเงินทุน (Capital Flows) ที่ตรวจสอบได้จริง
ข้อมูลจาก Spot Bitcoin ETF, การไหลเข้า–ออกของ Stablecoin และพฤติกรรม on-chain สะท้อนภาพเดียวกันอย่างชัดเจนว่า
ข่าวช่วยให้ราคาวิ่งเร็ว แต่เงินและสภาพคล่องคือเครื่องยนต์ที่ทำให้เทรนด์ไปต่อ
Narrative เร่งราคา แต่ไม่ใช่แรงขับหลักของตลาด
Narratives มีบทบาทคล้าย “ตัวเร่ง” ที่กระตุ้นความคาดหวังและการวางโพซิชันของนักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์การเมืองสำคัญ
ตัวอย่างเด่นคือปี 2024 ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ราคาบิตคอยน์ในช่วง มี.ค.–ต.ค. เคลื่อนไหวในกรอบราว 50,000–74,000 ดอลลาร์ แม้จะมีข่าวบวกเกิดขึ้นซ้ำหลายรอบ แต่ราคายังไม่สามารถสร้างเทรนด์ขาขึ้นที่ชัดเจนได้
จนกระทั่งเข้าสู่ไตรมาส 4 ตลาดเริ่ม “ตั้งราคา” ต่อความเป็นไปได้ของผู้นำสายสนับสนุนคริปโต โดยก่อนวันเลือกตั้ง BTC ปรับฐานราว 8% จากการลดความเสี่ยง (de-risking) ก่อนจะพุ่งขึ้นกว่า 56% ภายใน 42 วันหลังทราบผล และทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นรอบนี้ขับเคลื่อนด้วย เลเวอเรจในตลาดฟิวเจอร์ส เป็นหลัก โดย Futures Open Interest ขยายตัวเกือบเท่าตัวใน Q4 ขณะที่แรงซื้อในตลาดสปอตไม่ได้เพิ่มตามในสัดส่วนเดียวกัน ส่งผลให้โพซิชันเริ่มแออัด (crowded positioning) และทำให้ตลาดเปราะบางเมื่อโมเมนตัมชะลอลง
บทสรุปคือ Narrative มีผลต่อความรู้สึกและความเร็วของราคา แต่ไม่ได้รับประกันว่า “เงินใหม่” จะไหลเข้ามาซื้อจริง
Spot Bitcoin ETF: จุดที่ “เรื่องเล่า” แปลงเป็นดีมานด์จริง
หนึ่งในไม่กี่ปัจจัยที่ Narrative สอดคล้องกับข้อมูลเชิงปริมาณอย่างแท้จริง คือ Spot Bitcoin ETF
เพราะทุกดอลลาร์ที่ไหลเข้า ETF คือดีมานด์ที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่ความคาดหวัง
ข้อมูลระบุว่า
-
ปี 2024 Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีเงินไหลเข้าสุทธิราว 35,000 ล้านดอลลาร์
-
ปี 2025 (ถึงปัจจุบัน) มี inflow เพิ่มอีกราว 22,000 ล้านดอลลาร์
การเคลื่อนไหวของราคาสอดคล้องกับกระแสเงินอย่างชัดเจน
-
Q1 2024: Inflow มากกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ → BTC ขึ้นจาก ~42,000 → 73,000 ดอลลาร์
-
หลัง Q1: Inflow ชะลอ → ราคาเข้าสู่ช่วงสะสมและแกว่งตัวจนถึงเดือน ต.ค.
-
ต.ค. 2024 – ม.ค. 2025: Inflow รวมเกือบ 22,000 ล้านดอลลาร์ → ราคาเพิ่มจาก ~70,000 → 102,000 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน ช่วงที่ตลาดย่อตัวแรง จะพบว่า ETF Flows บางช่วงติดลบ สะท้อนว่า ETF ไม่ได้เป็น “ผู้ซื้อด่านสุดท้าย” แต่จะมีพลังจริงก็ต่อเมื่อ เงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องและยืนระยะ
Liquidity คือพระเอก: Stablecoin Inflows ลด 50% กำลังซื้อหาย
อีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญของ “แรงซื้อที่พร้อมใช้” คือ Stablecoin inflows เข้า exchange ซึ่งมักถูกใช้เป็น proxy ของกระสุนที่เตรียมเข้าตลาด
เมื่อ Stablecoin inflows เพิ่ม ตลาดสามารถดูดซับแรงขายได้ดี และเทรนด์มักยืดออกไปได้ เช่นช่วง Q4 2024 ถึง Q1 2025
แต่ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า Stablecoin inflows ลดลงราว 50% จากจุดสูงสุด ซึ่งหมายถึงกำลังซื้อใหม่ที่หายไปอย่างมีนัยสำคัญ
ในสภาวะสภาพคล่องต่ำ แม้จะมีข่าวบวกหรือ Narrative ใหม่ ราคาสามารถรีบาวด์ระยะสั้นได้ แต่การเบรกแนวต้านเพื่อไปต่อจะทำได้ยาก และความผันผวนขาลงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ทำไมปี 2025 “ข่าวดี” ไม่พอให้ตลาดไปต่อ
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ตลาดคริปโตยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหลายด้าน ได้แก่
-
Real yields ที่อยู่ในระดับสูง เพิ่มต้นทุนโอกาสและดึงเงินไปยังสินทรัพย์เชิงรับ (defensive assets)
-
แรงขายทำกำไรจากผู้ถือระยะยาว (Long-term holders) บนข้อมูล on-chain
-
ความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นและสภาพคล่องโลก ที่จำกัดการขยายตัวของ BTC ในบางช่วง
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้แม้ Narrative จะยังคงเป็นบวก แต่หากขาดเงินใหม่และสภาพคล่องรองรับ ตลาดก็ไม่สามารถสร้างเทรนด์ขาขึ้นที่ยั่งยืนได้
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you
