ธนาคารกลางจีน (PBoC) ส่งสัญญาณแข็งกร้าวอีกครั้งต่ออุตสาหกรรมคริปโต หลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานรัฐกว่า 13 แห่งในกรุงปักกิ่ง โดยย้ำชัดว่า “คริปโตยังคงผิดกฎหมายในจีนแผ่นดินใหญ่” พร้อมประกาศเดินหน้าปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด
ท่ามกลางกระแสที่โลกคริปโตถูกทำให้ “เป็นทางการ” มากขึ้น ไม่ว่าจะผ่านกฎหมาย กลไกตลาดทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันยักษ์ใหญ่ คำถามสำคัญที่ยังไม่เคยหายไปคือ นักลงทุนควร ถือครองคริปโตด้วยตัวเอง (self-custody)
ความผันผวนของราคา Bitcoin ไม่ได้กระทบเพียงฝั่งนักลงทุนเท่านั้น แต่แรงกดดันกำลังกระจายไปถึงผู้ประกอบการเหมืองทั่วโลก เมื่อทั้งค่า Difficulty, Hashprice, ราคาพลังงาน และความเสี่ยงด้านซัพพลายเครื่องขุด ต่างขยับเข้าสู่จุดที่ตึงตัวมากขึ้น
สวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในศูนย์กลางการเงินระดับโลก และประเทศที่มีภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับคริปโต” ตัดสินใจเลื่อนการเริ่มระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีคริปโตกับต่างประเทศออกไปอย่างน้อย ปี 2027 แม้จะเดินหน้าบรรจุกรอบกฎเกณฑ์ Crypto-Asset Reporting Framework (CARF) ลงในกฎหมายแล้วก็ตาม
คดีล่มสลายของ Terra / LUNA ที่สร้างความเสียหายมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์แก่ตลาดคริปโตในปี 2022 ยังคงเดินหน้าต่อ ล่าสุด Do Kwon ผู้ร่วมก่อตั้ง Terraform Labs ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐฯ ขอให้จำกัดโทษจำคุกของเขาไว้ไม่เกิน 5 ปีในคดีฉ้อโกงนักลงทุน
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"




