เจาะลึกการเติบโตเศรษฐกิจไทยในรอบ 30 ปี

ความจริง ความหวัง และความพยายาม: ล่าสุดสภาพัฒน์ฯ[1]แถลงตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจไทย GDP-Q3/2566 ขยายตัวเพียง 1.5% ต่ำกว่าที่หลายสำนักได้คาดไว้ และคาดการณ์ว่า GDP ของปี 2566 จะโตที่ 2.5% ชะลอลงเทียบกับ 2.6% ในปี 2565

ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวล และยังถกเถียงถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจสะสม รวมถึงความจริงจังของการแก้ไขปัญหาโครงสร้างให้สามารถกลับสู่ระดับศักยภาพการเติบโตที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทยก่อนที่จะสายเกินแก้
บทความนี้จะย้อนรอยเจาะลึกโครงสร้างการเติบโตเศรษฐกิจไทยในรอบ 30 ปีและมองไปข้างหน้า ผู้เขียนวิเคราะห์จากข้อมูลรายได้ประชาชาติด้านรายจ่ายรวม (Expenditure approach) โดยหวังว่าข้อมูลนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจ และกระตุ้นให้เราทุกคนหันมาช่วยกันผลักดันสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยให้ดีขึ้นได้
ความจริง: เศรษฐกิจไทย “ไม่มีพระเอกตลอดกาล” การเติบโตจากเศรษฐกิจภายในประเทศไม่เข้มแข็ง ขณะที่การเติบโตจากการค้าระหว่างประเทศผันผวนมาก
หากเราแบ่งเศรษฐกิจไทยที่ผ่านร้อนหนาว 30 ปีที่ผ่านมา ออกเป็น 3 ช่วง (รูป F1) คือ (1) ช่วง 2537-2545 ครอบคลุมวิกฤตปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ยที่ 3.3% หากตัดปีที่มีความผันผวน 2540-2541 ออกไป
ซึ่งปี 2541 ไหลลึกลงไปถึง -7.6% จะเห็นว่าแหล่งที่มาของการเติบโตมาจากการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (สีเขียวเข้ม) และค่าใช้จ่ายลงทุนภาคเอกชนภายในประเทศ (สีฟ้า) หรือเปรียบเป็น “พระเอกตัวจริง”
ขณะที่แรงส่งจาก “พระรอง” คือ รายได้ที่ได้จากการค้า/บริการระหว่างประเทศสุทธิ (สีแดงและสีส้ม) มีน้อยและผันผวนไม่คงเส้นคงวา และค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการของภาครัฐ (สีเขียวอ่อน) มีบทบาทค่อนข้างน้อย
(2) ช่วง 2546-2555 ครอบคลุมวิกฤต Sub-prime ความไม่สงบทางการเมือง (2549-2553)[2] และมหาอุทกภัยปี 2554 เศรษฐกิจไทยฟันฝ่าอุปสรรคเอาตัวรอดมาได้โตเฉลี่ยที่ 4.5% แรงส่งการเติบโตสำคัญยังมาจาก“พระเอกตัวจริง” คือมาจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน
โดยเริ่มมีการลงทุนสะสมอีกครั้งตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังวิกฤต 40 ต่อมาปัญหาความไม่สงบทางการเมืองและมหาอุทกภัยปี 2554 ทำให้การเติบโตสะดุดไปบ้าง หลังน้ำท่วมภาคเอกชนลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อซ่อมแซม/ฟื้นฟูการผลิต และเพื่อป้องกันน้ำท่วมข้างหน้า
ในฉากตอนนี้ “พระรอง” อย่างการค้า/บริการระหว่างประเทศสุทธิ มีบทแสดงมากขึ้น แม้ว่าจะผันผวนคือมีทั้ง “บทดีเป็นแรงส่ง” และ “บทร้ายเป็นแรงฉุดรั้ง” โดยรายได้จากด้านบริการสุทธิส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว
“ตัวประกอบ” อีกตัวที่มีบทบาทมากขึ้นคือ ส่วนเปลี่ยนสินค้าคงคลังคงเหลือ (สีเหลือง) ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างมูลค่าสินค้าคงเหลือปลายปีกับมูลค่าสินค้าคงเหลือต้นปี
ถ้ามีค่าเป็นบวก หมายถึงผลผลิตที่ผลิตได้ในปีนั้นยังขายไม่ได้ ถ้ามีค่าเป็นลบ หมายถึง การนำสินค้าคงเหลือในโกดังในปีก่อนไปขาย มากกว่าที่จะผลิตเข้ามาเติมในโกดัง เห็นได้จากในช่วงเกิดวิกฤต Sub-prime ตัวเลขส่วนเปลี่ยนสินค้าคงคลังคงเหลือมีความผันผวนมาก เนื่องจากภาคการผลิตไม่สามารถปรับตัวได้ทัน
(3) ช่วง 2556-2565 ครอบคลุมวิกฤตโควิด 19 และสงครามรัสเซียยูเครน วิกฤติโควิด 19 นับเป็นมหาวิกฤติสาธารณสุขโลกต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด ส่งผลให้กิจกรรมเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก
เศรษฐกิจไทยในช่วง 10 นี้โตน้อยเฉลี่ย 1.9% ส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจไทยโตได้น้อยอยู่แล้วในช่วงครึ่งแรก ในช่วงโควิดปี 2563 ได้รับผลกระทบหนักถดถอยถึง -6.1% รองจากปี 2540 ที่ลงลึกที่สุด -7.6%
โดยแรงส่งจาก “พระเอกตัวจริง” ทั้งการบริโภคและลงทุนภาคเอกชนแผ่วลงมาก การลงทุนบางปีแทบไม่มีเลย ในช่วงปี 2562-2564 “พระรอง” การค้าระหว่างประเทศยังผันผวนจากวิกฤตโควิคยังไม่จางหายดี
“พระรอง” ด้านรายได้บริการท่องเที่ยวได้พลิกบทบาทเป็น “ตัวเอกชั่วคราว” แต่เป็นทั้งแรงฉุดรั้งและเป็นแรงส่ง ส่วนผลของสงครามรัสเซียยูเครนต่อไทยยังส่งผ่านอ้อมๆ ผ่านราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์และธัญพืชบางชนิด
ความหวัง: เศรษฐกิจโลก-ไทยปี 2567 “Hope for the best but prepare for the worst”
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุดของ OECD[3] (29 พ.ย.) คาดว่าเศรษฐกิจโลกของปี 2566 จะเติบโตที่ 2.9% และในปีหน้า 2567 จะชะลอลงเป็น 2.7% เป็นผลจากภาวะการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น
การชะลอตัวของการค้าโลกทั้งจากข้อจำกัดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นและการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และความเชื่อมั่นของธุรกิจและผู้บริโภคที่ลดลง
ความเสี่ยงต่อแนวโน้มระยะสั้นที่จะฉุดรั้งคือ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และผลกระทบจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินคาด
ทั้งนี้เศรษฐกิจเอเชียที่เติบโตได้ดี เช่น อินเดีย 6.1% อินโดนีเซีย 5.2% และจีน 4.7% ยังเป็นแรงหนุนที่สำคัญของเศรษฐกิจโลก
ส่วนเศรษฐกิจไทย ในปี 2567 สภาพัฒน์ฯ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตต่อเนื่อง 2.7% - 3.7% สศค.[4] ให้โต 3.2% และ ธปท.[5]ให้โต 3.2% และ 3.8% กรณีรวมผลของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล ขณะที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)[6] คาดการณ์ว่าจะโต 2.8%-3.3%
อย่างไรก็ตาม จากรูป 2 เส้นเทคนิคการเคลื่อนตัวของ GDP รายไตรมาสปี 2566 โตชะลอลง ล่าสุด Q3-2566=1.5% ผู้เขียนเห็นว่าแรงส่งใน Q-4-2556 จาก “พระเอก”การบริโภคเอกชนและการลงทุน และ “พระรอง” การค้าระหว่างประเทศและรายได้บริการท่องเที่ยว ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะทำให้ GDP ของปี 2566 อยู่ที่ 2.5%
ซึ่งจะได้ถึงถ้า GDP-Q4 โตมากกว่า 4% ขึ้นไป ผู้เขียนหวังว่า GDP ปี 2567 จะโตได้ตามคาด และไม่ซ้ำรอยกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ต้นปีเราคาดหวังไว้สูง แต่ผ่านไประยะหนึ่ง ก็ต้องปรับประมาณการลงจากปัจจัยนอกและในประเทศ และไปไม่ถึงเป้าหมาย
ความพยายาม: เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า “ไปต่อหรือพอแค่นี้”
ความท้าทายเศรษฐกิจไทยข้างหน้าจะยิ่งซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ทั้งจากเทคโนโลยีดิสรัปชั่น ธุรกิจแพลตฟอร์ม ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความตึงเครียดทางการค้า และโลกร้อนและเทรนด์ผลิตภัณฑ์สีเขียวเพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันและตอบสนองต่อผู้บริโภคยุคใหม่
และปัญหาเชิงโครงสร้างของไทยที่สำคัญ เช่น โครงสร้างประชากรสูงอายุ (กำลังแรงงานลด สูงวัยไร้ที่พึ่ง ภาระทางการคลังด้านรายจ่ายสังคมสงเคราะห์สูงขึ้น) และกับดักเทคโนโลยีปานกลาง (งามอรุณโชติ, 2020)[7] ที่ไทยไม่สามารถปรับโครงสร้างการผลิตไปสู่เทคโนโลยีระดับสูงได้อย่างว่องไว เป็นต้น
จากข้อมูลยาวๆ 20 ปี (2546-2565) เศรษฐกิจไทยโตในอัตราต่ำเฉลี่ยประมาณ 3% อาจสะท้อนว่า “เศรษฐกิจไทยมีระดับศักยภาพต่ำลง” ผนวกกับต้องเผชิญกับความท้าทายข้างต้น ยิ่งกดดันให้ไทยต้องเร่ง “นโยบายปรับโครงสร้างด้านอุปทาน” ตามแผนที่เคยวางไว้ภายใต้การปฏิรูป “ประเทศไทย 4.0”
เช่น การยกระดับ/พัฒนาคลัสเตอร์เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การส่งเสริม SMEs ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เปลี่ยนเกษตรกรให้เป็น Smart Farmers และการพัฒนาคนไทยเป็น Global and digital Thai เป็นต้น ในท้ายนี้หวังว่าเราทุกคนจะมีส่วนช่วยทำให้โรดแมปที่เขียนไว้เกิดเป็นความจริงได้
Disclaimer: ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียน และการกล่าว คัด หรืออ้างอิงข้อมูลบางส่วนตามสมควรในบทความนี้ จะต้องกระทำโดยถูกต้องและอ้างอิงถึงผู้เขียนโดยชัดแจ้ง
เอกสารอ้างอิง:
[1] สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC) (2566), ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สามของปี 2566 และแนวโน้มปี 2566 – 2567 (NESDC ECONOMIC REPORT), กองยุทธศาสตร์และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค, 20 พ.ย.
[2] วรวรรณ อินทะรังษี (2561), การเคลื่อนไหวทางความคิดของนักวิชาการและนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ในวิกฤตการณ์การเมืองไทยระหว่างปี พ.ศ. 2549-2553, วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2561, คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
[3] OECD (2023), OECD Economic Outlook, Volume 2023 Issue 2: Restoring Growth, 29 Nov
[4] สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (2566), ประมาณการเศรษฐกิจไทย ประจำไตรมาสที่ 4/2566
[5] ธนาคารแห่งประเทศไทย (2566), ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 6/2566, ข่าว ธปท. ฉบับที่ 51/2566, 29 พ.ย. 2566
[6] Mreport (2566), กกร. คาดการณ์ GDP ปี'67 ขยายตัว 2.8 - 3.3% โตน้อยกว่าระดับศักยภาพเป็นปีที่ 6, 7 ธ.ค. 2566
[7] แบ๊งค์ งามอรุณโชติ (2020), ประเทศไทยในกับดักเทคโนโลยีปานกลาง : เมื่อนรกเป็นของเราและสวรรค์เป็นของคนอื่น, 22 Nov
[8] สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (2560), Thailand 4.0 ขับเคลื่อนอนาคตสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน, “ไทยคู่ฟ้า” วารสารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เล่มที่ 33 ม.ค.- มี.ค. 2560
โดย ดร.เสาวณี จันทะพงษ์ | นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐกิจมหภาค
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"