ถึงเวลา “ลูกศรดอกที่สาม” ของเศรษฐกิจไทย

ตอนนี้มีสัญญาณชัดขึ้นเรื่อยๆว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ของปัญหาเชิงโครงสร้างที่รุมเร้า น่ากังวลว่าถ้าเราปล่อยไว้แบบนี้ เราจะเข้าสู่เส้นทางที่ย้อนกลับไม่ได้
การกระตุ้นอุปสงค์ระยะสั้นคงไม่เพียงพอจะแก้ไขปัญหาที่เรากำลังเจออยู่ได้

เราจำเป็นต้องหาทางออกกันอย่างจริงจังว่า เราจะมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ (structural reforms) เพื่อยก “ระดับศักยภาพ” ของเศรษฐกิจ เพิ่ม “ประสิทธิภาพ” และเสริมสร้าง “ความสามารถในการแข่งขัน” ของเศรษฐกิจไทยได้อย่างไร
หลายเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างกระทบต่อผลประโยชน์ของคนมหาศาลทั้งบวกและลบ และคงต้องเริ่มคิดกันแล้วว่า เราจะมีแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ หรือ reform agenda ที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนได้อย่างไร และเราจะสร้างฉันทามติทางการเมืองให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
เศรษฐกิจโตช้าลงเรื่อยๆ
ถ้ามองย้อนกลับไปยาวๆ จะสังเกตได้ว่าแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยมีแต่สาละวันเตี้ยลง และปัญหาไม่ได้เพิ่งเริ่มเกิดขึ้น จากเศรษฐกิจที่เคยเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของเอเชียโตได้ปีละ 8-10% ต่อปีในช่วงปี 1990s พอวิกฤติต้มยำกุ้ง เศรษฐกิจไทยก็เปลี่ยนตัวเองขนานใหญ่ จนกลายเป็นเครื่องจักรในการส่งออก โตได้ปีละ 5% โดยเฉลี่ยจนกระทั่งวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2008 หลังจากนั้นเราก็โตได้ปีละแค่ 3.2% โดยมีเครื่องจักรสำคัญคือการท่องเที่ยว
จนกระทั่งเราเจอวิกฤติ Covid-19 ทุกคนก็คาดว่า เพราะท่องเที่ยวเราหายไป เดี๋ยวท่องเที่ยวกลับมา เศรษฐกิจไทยก็คงกลับไปโตได้ 3-4% เหมือนเดิม
แต่เราเริ่มเห็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจไทยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การฟื้นตัวของเศรษฐกิจช้ากว่าที่หลายคนคาดไว้มาก ทั้งๆที่การท่องเที่ยวก็กลับมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า ถ้าไม่มีการท่องเที่ยว เศรษฐกิจไทยส่วนอื่นๆไม่โตขึ้นเลย และเป็นตัวฉุดรั้งเสียด้วยซ้ำ
ช่วงที่ผ่านมาหลายปี การท่องเที่ยว ปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด และการฟื้นตัว ซ่อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่กัดกร่อนพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยจนเริ่มมีอาการที่น่ากังวลว่า เรากำลังอยู่ในภาวะ “กบต้ม” แบบไม่รู้ตัวหรือไม่
ต้องยอมรับว่าปัญหาสำคัญอันหนึ่งคือ เกิดจากปัญหาจากแนวโน้มโครงสร้างประชากร จำนวนประชากรโดยรวมที่กำลังโตช้าลง และจำนวนประชากรวัยทำงานที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และกำลังค่อยๆลดลง
ถ้าเศรษฐกิจไทยเป็นเครื่องจักร ก็คงเป็นเครื่องจักรที่มีวัตถุดิบคือ “แรงงาน” ใส่ลงไปน้อยลงเรื่อยๆ ถ้าเครื่องจักรไม่มีการปรับปรุงอะไรเลย ไม่มีทางที่ผลผลิตของเครื่องจักรจะเพิ่มขึ้นได้เลย
จำนวนแรงงานที่ลดลงทำให้เกิดปัญหาทั้งในแง่ของขนาดของตลาด ที่โตช้าลง ไม่น่าสนใจเหมือนอย่างเคย การขาดแคลนแรงงานทำให้ค่าแรงเริ่มสูงขึ้น ในขณะที่คุณภาพของแรงงานไม่ได้ดีขึ้น สังเกตจากตัวชี้วัดด้านการศึกษาที่ตกต่ำถดถอย และภาวะการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ จนทำให้เราไม่ได้เป็นเป้าหมายของการลงทุนจากต่างประเทศอีกต่อไป
การลงทุนที่น้อยลงทั้งจากต่างประเทศ และการลงทุนในประเทศเอง ยิ่งทำให้ศักยภาพของเศรษฐกิจถูกกัดกร่อนลงไปอีก เหมือนเรากำลังกินบุญเก่าที่สะสมมาในอดีต โดยไม่ได้ลงทุนเสริมสร้างบุญใหม่ ถ้าเป็นบ้าน ก็คงเป็นบ้านที่ไม่ได้ซ่อมสร้าง
ความสามารถในการแข่งขัน
อาการโตช้า ไม่มีการลงทุนใหม่ ก้าวไม่เท่าทันเทคโนโลยี ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า เราจะยังรักษาความสามารถในการแข่งขัน ในโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และเราไม่อยู่ในสถานที่จะไปแข่งกับอุตสาหกรรมรูปแบบเดิมๆได้หรือไม่ แม้ตัวเลขจะยังไม่ได้แย่มากนัก แต่ก็มีสัญญาณหลายอย่างว่าน่ากังวลจริงๆ
จริงๆแล้วในด้านการส่งออก หลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมาไกลมากจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูง มาสู่อุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนสูง และมีการกระจายในหลายอุตสาหกรรม แต่ปัญหาคือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนไป สินค้าส่งออกของเราหลายอย่างกำลังเจอแรงกดดันอย่างหนัก เราเริ่มเห็นโรงงานหลายแห่งเริ่มปิดกิจกรรมและเริ่มย้ายไปต่างประเทศ
ในหลายอุตสาหกรรม อาจเรียกได้ว่าเป็น Kodak’s moment ได้เลย นึกภาพอย่างรถยนต์สันดาปภายใน และฮาร์ดดิสก์ ที่เราเป็นแหล่งผลิตสำคัญของโลก แม้ยอดส่งออกยังไม่ลดลงมาก แต่ทั่วโลกกำลังจะเปลี่ยนผ่านไปใช้เทคโนโลยีอื่น ที่ยังไม่แน่ใจว่าเราจะยังมีความสามารถในการดึงดูดเทคโนโลยีใหม่ๆ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศได้เหมือนเดิมหรือไม่
นอกจากนี้ เรากำลังเจอกระแสภูมิรัฐศาสตร์กดดัน พอสหรัฐทะเลาะกับจีน สินค้าหลายชนิดจากจีน ที่มี scale และต้นทุนต่ำกว่ามหาศาล ก็ถูกเปลี่ยนมาขายให้ Asean มากขึ้น กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น ในขณะที่รูปแบบของการค้าและการลงทุนก็เปลี่ยนไป และมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นในประเทศก็อาจจะมีน้อยลง
นึกภาพว่า ถ้าเราต้องเปลี่ยนมานำเข้าสินค้าที่เราเคยส่งออกได้เยอะๆ อย่าง รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การจ้างงาน และดุลการค้า จะเป็นอย่างไร
“แก่ก่อนรวย” และการเคลื่อนย้ายทางสังคมและเศรษฐกิจ
อาการโตช้าลง และภาวะสังคมผู้สูงอายุคงไม่เป็นปัญหา ถ้าคนไทยโดยเฉลี่ยมีระดับรายได้เพียงพอและอยู่ในภาวะที่พออยู่ได้ แต่ปัญหาคือคนจำนวนมากยังขาดการวางแผนทางการเงิน สะสมความมั่งคั่งไม่พอภาวะเกษียณ มีรายได้ไม่พอรายจ่าย
นอกจากนี้ ภาวะโตช้าจะจำกัด “โอกาส” ของคนในการเลื่อนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ สมัยก่อนตอนเศรษฐกิจดีๆ อาจจะไม่แปลกที่เราจะเห็นคนที่เกิดในครอบครัวที่ยากจนกลายเป็นคนชั้นกลาง คนชั้นกลางกลายเป็นเศรษฐี แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจโตช้า โอกาสทางเศรษฐกิจก็มีน้อยลง ซ้ำร้ายความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและบริการภาครัฐยังมากอีก โอกาสที่คนจนที่เกิดในต่างจังหวัด จะเลื่อนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจจะยากขึ้น
ความเหลื่อมล้ำและปัญหาหนี้
อีกอาการหนึ่งที่เราเห็นจากเศรษฐกิจซบเซาคือปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และความมั่งคั่ง ในวันที่เศรษฐกิจโตดี ความเหลื่อมล้ำไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก เพราะขณะที่พายทั้งชิ้นโตอยู่ถึงเราจะได้ชิ้นพายเป็นสัดส่วนเล็กลงบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะชิ้นพายที่เราได้รับยังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แต่วันที่พายหยุดโต แต่สัดส่วนที่คนทั่วไปได้รับจะเล็กลง เพราะคนที่มีโอกาสมากกว่ายังคงแย่งชิงสัดส่วนของพายไปเรื่อยๆ และชิ้นพายที่คนทั่วไปได้รับจะเล็กลง
เราสังเกตว่า แม้เศรษฐกิจโตมาเรื่อยๆ แต่อัตราค่าจ้างที่จริงโดยเฉลี่ยแทบไม่โตขึ้นเลยในหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าผลตอบแทนของแรงงานมีสัดส่วนลดลง และเมื่อรายได้ไม่โตในขณะที่รายจ่ายเพิ่มไม่หยุด ปัญหาหนี้ก็ตามมา และปัญหานี้จะทวีความรุนแรงขึ้นตราบเท่าที่รายได้ที่แท้จริงไม่เพิ่มขึ้น และมาตรการแก้หนี้ที่ได้ผลดีที่สุดคือการยกระดับรายได้ของคนในประเทศไปพร้อมๆกับการควบคุมการก่อหนี้ไม่ให้มากเกินตัว แต่ถ้ารายได้ยังไม่เพิ่มปัญหาหนี้คงแก้ไม่ได้อย่างยั่งยืน
ลูกศรสามดอกของ Abenomics
ถ้าใครจำคุณ Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นผู้ล่วงลับ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 10 ปีในช่วงปี 2006-2007 และ 2012-2020 ช่วงนั้นญี่ปุ่นกำลังเจอภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำซ้ำซากเป็นเวลานาน นโยบายที่เป็นที่จดจำที่สุดของ Abe คือนโยบาย “ลูกศรสามดอก” เพื่อยกเศรษฐกิจญี่ปุ่นขึ้นจากหล่มที่ติดมาเป็นเวลาหลายสิบปี หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Abenomics ซึ่งประกอบไปด้วย
หนึ่ง การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินที่ประกาศคำมั่นสัญญามุ่งเป้าหมายเงินเฟ้อที่ชัดเจน
สอง การใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นการลงทุนภาครัฐ และการใช้จ่ายเชิงโครงสร้าง พร้อมๆไปกับการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ด้วยการให้คำมั่นในการขึ้นค่อยๆขึ้นภาษีบริโภคจาก 5% เป็น 10% เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือทางการคลัง
และที่สำคัญคือลูกศรดอกที่สาม คือนโยบายปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (structural reforms) เพื่อยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบไปด้วยมาตรการหลายด้าน เช่น การปฏิรูปตลาดแรงงาน เช่น การส่งเสริมผู้หญิงให้กลับสู่ตลาดแรงงาน และเพิ่มความยืดหยุ่นของตลาดแรงงาน การปฏิรูปภาคเกษตร เช่น การลดข้อจำกัดในการรวบรวมพื้นที่การเกษตร การปฏิรูปด้านการดูแลกิจการ (corporate governance) ที่มุ่งเป้าหมายให้ผู้บริหารบริษัทดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นมากขึ้น การปฏิรูปเรื่องกฎระเบียบและส่งเสริมการแข่งขัน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนใหม่ ส่งเสริมการแข่งขัน และนวัตกรรมใหม่ๆ ลดการผูกขาดกินรวบ การปฏิรูปด้านนโยบายการค้า ที่สำคัญคือการเข้าร่วม Trans-Pacific Partnership (TPP) เพื่อขยายตลาดการส่งออก และเร่งให้อุตสาหกรรมในประเทศปรับตัวเพื่อการแข่งขันมากขึ้น และการส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยว
แม้นโยบายเหล่านี้ จะมีคำวิจารณ์ถึงความสำเร็จ และหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในด้านการเมือง เพราะแต่ละนโยบายมีผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อคนกลุ่มต่างๆ นายก Abe ต้องยุบสภาถึงสามครั้งเพื่อขอฉันทามติทางการเมืองในหลายเรื่องที่อ่อนไหว เช่น การขึ้นภาษี แต่ก็เป็นจุดเริ่มที่สำคัญที่สร้างความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้าง เพื่อยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจ และสร้างให้เกิดการพูดคุยทางการเมืองในประเด็นเหล่านี้ และมีส่วนทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นดีขึ้นในช่วงหลังๆ
นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจไทย
ผมคิดว่าเศรษฐกิจไทยวันนี้ ก็ไม่น่าต่างจากญี่ปุ่นในวันนั้น และอีกหลายประเทศที่เราเห็นตัวอย่างมาแล้ว ผมว่าถึงเวลาที่เราต้องตระหนักกันว่า #บุญเก่าเรากำลังจะหมด และ #เราทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว และเราต้องมาคุยกันอย่างจริงจังว่า #เราจะไปอย่างไรกันต่อ
เราคุยกันมาเยอะมาถึงความท้าทาย และเราไม่สามารถจะยกสูตรสำเร็จของนโยบายปฏิรูปที่ต่างประเทศใช้ได้ทั้งหมด แต่ด้วยความท้าทายที่เราตามหลังหลายๆประเทศ ตัวอย่างเหล่านั้นก็น่าจะเป็นตัวอย่างและจุดเริ่มต้นที่ดีได้ แต่สุดท้ายแล้ว เราควรจะคุยกันภายใต้กรอบประชาธิปไตยถึงการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่เศรษฐกิจไทยต้องการ เพราะการปฏิรูปย่อมมีผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ถ้าเราไม่เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจกันอย่างจริงจัง เราจะกลายเป็นเศรษฐกิจที่ถดถอยไปเรื่อยๆ เป็นประเทศที่โลกลืม และปัญหาความเหลื่อมล้ำก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
มาช่วยคิดช่วยกันทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเป็นเศรษฐกิจแห่งโอกาสกันอีกครั้งกันเถอะครับ
โดย พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย
Source: ThaiPublica

 

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"