ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ที่ 11 เมษายน โดยดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 50.93 จุด หรือ +0.64% ปิดที่ 7,964.18 จุด ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ แม้ว่าตลอดสัปดาห์ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษีและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

รายงานราคาทองคำประจำวันที่ วันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2568 เปิดตลาดปรับตัวขึ้นแรง 800 บาท เมื่อเทียบกับราคาสุดท้ายของเมื่อวาน พุ่งแตะระดับ 51,200 บาทต่อบาททองคำแท่ง ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่รวดเร็วและแรง รับแรงหนุนจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกแรงในวันศุกร์ที่ 11 เมษายน ทะยานขึ้นเหนือระดับ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงและสถานการณ์ตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) ปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 7.64% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แตะระดับ 82,181.70 ดอลลาร์ ณ เวลา 07:50 น. หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการจัดเก็บภาษีศุลกากรเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน

ปี 2568 กำลังกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของโลกเศรษฐกิจ เมื่อสหรัฐฯ ภายใต้นโยบายการค้าสายเหยี่ยว มีแนวโน้มเดินหน้าปรับขึ้นภาษีนำเข้าในวงกว้าง ซึ่งอาจผลักดันให้อัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930s นโยบายที่ถูกขนานนามว่า “ภาษีทรัมป์”

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568 ราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 300 บาท โดยสมาคมค้าทองคำประกาศราคาครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.04 น. ทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 50,150 บาทต่อบาททองคำ และรับซื้อที่ 50,050 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณขายออกที่ 50,850 บาท

ราคาทองคำฟิวเจอร์ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงเช้าวันนี้ (11 เม.ย.) ทะลุระดับ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (9 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งทำให้ทองแดงที่ซื้อขายในรูปสกุลดอลลาร์มีราคาถูกลงและดึงดูดนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นมากขึ้นสัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนพฤษภาคม

บล.กรุงศรี รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 11 เมษายน 2568 คาดว่า ดัชนี SET จะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,120-1,115 จุด และแนวต้าน 1,147-1,155 จุด โดยมีแรงกดดันหลักจากความกังวลผลกระทบของมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักในวันพุธที่ 9 เมษายน 2568 หลังจากจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 84% จากเดิม 34% เพื่อโต้ตอบที่สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงถึง 104% ซึ่งมีผลในวันเดียวกัน สถานการณ์ดังกล่าวจุดชนวนความกังวลด้านสงครามการค้าโลก